จับแก๊งแอบอ้างโครงการบริหารน้ำ ตุ๋นเงินเอกชนกว่า118ล้าน

กองบังคับการปราบปราม-พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. แถลงข่าวจับกุมนายชาคริต บุญเกิด อายุ 40 ปี นายศิรัช ดำรงค์รัตน์ อายุ 39 ปี นายชาตรี จันทมณี อายุ 69 ปี นายมงคล ศรีสุภาภรณ์ อายุ 49 ปี ในข้อหาฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสาร ประมูลงานราชการกรมทรัพยากรทางน้ำมูลค่ากว่า 118 ล้านบาท

พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่าสืบเนื่องจาก นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติกร เดินทางเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่า มีการปลอมแปลงเอกสารราชการ แอบอ้างโครงการบริหารจัดการน้ำ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เสนองานให้กับภาคเอกชนที่สนใจดำเนินงานโครงการ ทั้งที่ไม่เป็นความจริงและก่อให้เกิดความเสียหายกับกระทรวงทรัพยากรทางน้ำ จึงได้สืบสวนและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาดำเนินคดี

นายจตุพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนได้ติดตามกลุ่มบุคคลที่มีการแอบอ้างว่ากรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มีโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เช่น ขุดลอกคลอง มีมูลค่าโครงการในแต่ละพื้นที่หลายร้อยล้านบาท ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยผู้กระทำความผิดจะเสนอตัวให้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่สนใจ แล้วกล่าวอ้างว่าถ้าอยากได้งาน ขอให้จ่ายเงินเป็นการแลกเปลี่ยนก่อนจะพาไปพบอธิบดีกรมฯ และไม่แต่เพียงกรมทรัพยากรน้ำ เท่านั้น ตนจึงเร่งตรวจสอบและให้ทางฝ่ายกฎหมายติดตามโดยตลอด

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าวอีก จึงเร่งประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ทหาร และมีการเฝ้าติดตาม กระทั่งทราบว่าทางตำรวจ บก.ป.มีการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้ว นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่มีอยู่อย่างน้อย 5-6 คน โดยพบตัวบางคนแล้ว แต่อยู่ระหว่างการสอบปากคำอยู่

"เรื่องนี้เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่ต้องการให้การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ที่สำคัญคือเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่นต้องไม่มี เป็นนโยบายที่ท่านเน้นย้ำ ก็ต้องขอบคุณทาง บก.ป.ที่ร่วมดำเนินการกับทางกรมทรัพยากรน้ำ จนสามารถติดตามตัวผู้ต้องสงสัยได้"นายจตุพร กล่าว

อธิบกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทราบว่าทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนและขยายผลว่ายังมีผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้นอีก เท่าที่ทราบก็พบว่ามีหลายคนที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้เสียหายก็มีบริษัทที่หลงเชื่อ และเป็นผู้ที่จ่ายเงินก็พร้อมจะเป็นพยาน สำหรับทางกรมทรัพยากรน้ำ ก็ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากมีการนำเอาโครงการที่ไม่ได้มีอยู่จริง ไปพิมพ์เอกสารแล้วนำไปกล่าวอ้างด้วยข้อความเท็จ รวมทั้งยังมีการใช้สถานที่ราชการด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด และต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้หมดทั้งขบวนการ

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้ประสานไปยังส่วนราชการอื่นๆ ที่อาจได้รับความเสียหายจากกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้แล้ว รวมทั้งภาคเอกชนผู้เสียหาย ขอให้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ และขอฝากถึงพี่น้องประชาชน ว่าหากสนใจหรืออยากได้งานของทางราชการโดยเฉพาะในส่วนของกรมทรัพยากรน้ำ ขอให้มาติดต่อสอบถามโดยตรงที่กรมฯ และการดำเนินการต้องเป็นไปตามระเบียบ คือ มีการประกาศ มีการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง ฯลฯ ตามขั้นตอนกฎหมาย ที่ผ่านมาอาจมีผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงขอให้มีการตรวจสอบ ส่วนการพิจารณาเอาผิดก็คงมีทั้งเรื่องการใช้เอกสารเท็จ การใช้สถานที่ราชการในการกระทำผิด ซึ่งคงต้องประสานกับทางพนักงานสอบสวนในการพิจารณาดำเนินคดี สำหรับฝ่ายผู้เสียหายที่เป็นภาคเอกชน ก็สามารถดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า จากที่ตนได้ตรวจสอบในเบื้องต้นจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบว่ามีข้าราชการของกรมฯ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนการสอบสวนดำเนินการก็คงต้องปล่อยให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการไปก่อน เพราะเรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของกรมฯ หรือแม้แต่หน่วยงานราชการได้รับความเสียหายอย่างมาก ก็ต้องกระชากหน้ากากของผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดออกมาให้หมด เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด