'พลังงาน'ย้ำจัดหาปิโตรเลียมต้องให้ทุกฝ่ายยอมรับ

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การจัดหาปิโตรเลียมเพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย ทั้งการสร้างความเชื่อมั่น และการยอมรับด้านการจัดหาพลังงานจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่การจัดทำแผนงานใดๆต้องชี้แจงให้สังคมได้รับรู้ด้วย ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้นำเสนอสรุปภารกิจสำคัญเร่งด่วน ด้านจัดหาปิโตรเลียมเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ , การบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สัมปทานจะสิ้นอายุในปี 65-66 และการบริหารจัดการปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนไทย-กัมพูชา

โดยรับรายงานข้อมูลสถานการณ์ว่า การจัดหาปิโตรเลียมในปัจจุบันสามารถรองรับความต้องการใช้ภายในประเทศได้เพียง 42% ขณะที่ความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าของประเทศมีแนวโน้มลดลงในอนาคต ซึ่งภารกิจต่างๆ ดังกล่าว นับเป็นส่วนสำคัญของแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2015) ที่จำเป็นต้องขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ

"วันนี้จึงได้มอบนโยบายแก่ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ว่าในการจัดหาพลังงานของประเทศนอกจากจะเน้นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น การสร้างความเชื่อมั่น และการยอมรับด้านการจัดหาพลังงานจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยทุกกิจกรรมขอให้มุ่งเน้นถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ"รมว.พลังงาน กล่าว

รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า การจัดทำแผนงานหรือการดำเนินกิจกรรมใดๆ ของหน่วยงาน จะต้องชี้แจงให้สังคมได้รับรู้ โดยการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงแผนการดำเนินงานของหน่วยงาน ที่จะต้องสะท้อนให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนและประเทศชาติจะได้รับอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังการดำเนินการตามแผนงานเรียบร้อยแล้ว