สถานทูตตุรกีในไทย ยันผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ชาวตุรกี

สถานทูตตุรกีในไทย ยันผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ชาวตุรกี

สถานทูตตุรกีในไทย ออกแถลงการณ์ยัน ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่จับได้กรณีวางระเบิด ไม่ใช่ชาวตุรกี จี้ทางการไทยให้ข้อมูลชัดเจน

สถานเอกอัครราชทูตตุรกี ประจำประเทศไทย คำแถลงของสถานทูตเกี่ยวกับการรายงานข่าวที่ได้อ้างถึง ความเชื่อมโยงของประเทศตุรกี ในกรณีเหตุการณ์วางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยได้มีการร้องขอความชัดเจนโดยทำการส่งจดหมายไปยังกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมว่าเป็นชาวตุรกี รวมถึงกรณีหนังสือเดินทางตุรกีตามข่าวที่มีการถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ และได้แจ้งว่าทางสถานทูตกำลังรอคำตอบอย่างเป็นทางการจากทางการไทย

ในขณะเดียวกัน ในวานนี้ (2 ก.ย.) ทางสถานทูตได้รับจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของการสืบสวนสอบสวนและสัญชาติของผู้ต้องสงสัยนั้น ยังไม่ได้มีการระบุได้ โดยทางกระทรวงการต่างประเทศยังรอผลการพิสูจน์หนังสือเดินทางปลอมสัญชาติตุรกีตามที่ปรากฎอยู่ในข่าวเช่นกัน 

ในส่วนที่บางรายงานข่าวได้มีการอ้างถึงการออกหมายจับคนสัญชาติตุรกีนั้น จนกระทั้งบัดนี้สถานทูตยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนั้น 

นาย Tanju Bilgiç โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐตุรกี ได้ตอบคำถามเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการรายงานข่าวที่เชื่อมโยงชาวตุรกีกับเหตุระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ คำพูดของโฆษกได้มีการแปลอย่างไม่เป็นทางการได้ดังนี้ 

เราได้รับทราบถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ในกรุงเทพฯ และยังได้รับรู้จากทางการไทยและสื่อไทยว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คน ในกรณีเหตุการณ์วางระเบิดได้ถูกสอบสวนในวันที่ 29 และ 30 สิงหาคม 2558 ในรายงานข่าวได้ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมนั้น ได้ถือครองหนังสือเดินทางปลอมสัญชาติตุรกี จากรูปภาพจะสังเกตได้ว่าหนังสือเดินทางฉบับนี้เป็นฉบับปลอม

เป็นที่น่าเสียดายว่า ในทันทีที่ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุม ข้อมูลที่ผิดพลาดได้ถูกนำเสนอในรายงานข่าวว่า บุคคลผู้นี้เป็นชาวตุรกี อีกทั้งสถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้ชี้แจงว่า บุคคลดังกล่าวมิได้เป็นชาวตุรกี รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงอังการา ได้ชี้แจงตามที่ระบุในรายงานข่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดในประเด็นดังกล่าว ในอีกแง่หนึ่งได้มีการรายงานในสื่อว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2558 ณ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ถือหนังสือเดินทางสัญชาติจีน ในความเป็นจริงแล้ว ทางการไทยควรมีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้ 

"ขอยืนยันว่า สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยได้มีการติดต่อกับทางการไทย กระทรวงต่างประเทศของตุรกีก็ได้มีการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา กระทรวงต่างประเทศของตุรกีได้มีการร้องขอข้อมูลผ่านทางตำรวจสากล ซึ่งเรายังไม่ได้รับคำตอบ นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดได้ ณ ตอนนี้ ขออ้างถึงสารที่สถานเอกอัครราชทูตตุรกีที่ได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นั้น กระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐตุรกี ได้ส่งสารแสดงความเสียใจถึงกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยว่าประเทศตุรกีขอประณามการกระทำซึ่งเป็นการก่อการร้ายในครั้งนี้ และแสดงจุดยืนที่แน่วแน่ในการต่อสู้กับการก่อการร้ายเท่านั้น" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตุรกี กล่าว