คสช. เผย อยู่ระหว่างสอบปากคำ 'อาเดม-ยูซุฟู'

คสช. เผย อยู่ระหว่างสอบปากคำ 'อาเดม-ยูซุฟู'

โฆษก คสช. เผย จนท.อยู่ระหว่างสอบปากคำ "อาเดม-ยูซุฟู" แจง ออกหมายจับ 8 ผู้ต้องสงสัย ยึดหลักสากล วอนอย่าแสดงความเห็นชี้นำคดี

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวรวมการเฉพาะกิจ ชี้แจงความคืบหน้าเหตุบอบวางระเบิดแยกราชประสงค์-สาทร ว่า การติดตามสืบสวนคดี มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของตำรวจ อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวไว้ จำนวน 2 ราย คือ นายอาเดม คาราดัก ซึ่งถูกจับได้ที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ เขตหนองจอก เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม และนายยูซุฟู มีไรลี ซึ่งถูกจับได้ที่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 1 กันยายน ทั้งนี้จากผลการสอบปากคำผู้ต้องสงสัย และพยานบุคคลต่างๆ ประกอบกับภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถออกหมายจับผู้ต้องสงสัยได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 8 หมาย ประกอบด้วย

1.ชายสวมเสื้อสีเหลือง ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ 2.ชายสวมเสื้อสีฟ้า ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ท่าเรือสาทร 3.ชายต่างชาติ จำนวน 3 คน ที่อาจเกี่ยวข้องกับการครอบครองวัตถุระเบิดในห้องเช่าพูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ เขตหนองจอก 4.ชายต่างชาติ จำนวน 1คน ที่อาจเกี่ยวข้องกับการครอบครองวัตถุระเบิดในห้องเช่าหอพักไมมูณา การ์เด้น โฮม เขตมีนบุรี 5.นางสาววรรณา สวนสัน ผู้ทำสัญญาเปิดเช่าห้องพัก และล่าสุด 6.คือ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สัญชาติตุรกี ซึ่งเป็นสามีของนางสาววรรณาฯ ทั้งนี้ การออกหมายดังกล่าว ดำเนินการบนหลักพื้นฐานที่เป็นสากล ของการดำเนินคดีในชั้นสืบสวนสอบสวน จะเป็นไปตามสมมุติฐานของแนวทางการสืบสวนอันใดก็ตาม จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบของพยานหลักฐานต่างๆ มาสนับสนุนอย่างเพียงพอ

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเริ่มมีความคิดเห็นที่หลากหลาย ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่อยากให้มีความคิดเห็นในเชิงชี้นำ ที่จะไปสู่ความสับสนต่อการรับรู้ของสังคมได้ โดยชุดเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในคดีนี้ ประกอบด้วยผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง และเป็นบุคคลที่มีความสามารถ ประกอบกับความพยายามในการคลี่คลายคดีด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนเพื่อวิเคราะห์และค้นหาถึงมูลเหตุจูงใจ เครือข่ายขบวนการในครั้งนี้ต่อไป นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้รายงานให้ทราบว่า จากผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งในเรื่องของการติดตามจับกุมคนร้าย และการดูแลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิต รวมทั้งมาตรการรองรับเหตุฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทั้งนี้เชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้คือประมาณ 29 ล้านคน

สำหรับเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย นอกเหนือไปจากการวางกำลังของเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบ รวมทั้งการเพิ่มความเข้มงวด ในการผ่านเข้าออกตามแนวชายแดน ท่าอากาศยาน รวมทั้งท่าเรือต่างๆ แล้วอย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการลดช่องว่าง ในการรักษาความปลอดภัย และสนับสนุนข้อมูลข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย ขอให้รีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ และท่าเรือสาทร สามารถแจ้งผ่านหมายเลข 1515 ได้ตลอดเวลา