นายกฯลั่นใครอยู่ในอำนาจต้องนึกถึงประชาชน

นายกฯลั่นใครอยู่ในอำนาจต้องนึกถึงประชาชน

นายกฯลั่นอนาคตใครอยู่ในอำนาจต้องนึกถึงประชาชน ชี้ถ้าโกหกประชาชนไปไม่รอด สั่งอย่าให้มีการบิดเบือนอีก แจงไม่เคยสั่งทหารรังแกประชาชน

อ.แม่สอด จ.ตาก-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบปะประชาชนจังหวัดตากจำนวน 1,200 คน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลนครแม่สอด จ.ตาก โดยกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนจากจังหวัดตาก ยินดีที่ได้มาเยี่ยมในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเคยมาจังหวัดตากหลายครั้ง สิ่งสำคัญคือการติดตามความก้าวหน้า มาวันนี้เพื่อประชาชนทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อกลุ่มธุรกิจใดทั้งสิ้น คำนึงถึงคนในพื้นที่ โลกเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทุกประชาคมโลกต้องมีความเชื่อมโยง มีความเป็นหนึ่งเดียวกันและแบ่งปันกัน

"พื้นที่นี้มีศักยภาพมากจึงต้องเลือกพื้นที่นี้และจัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษปีนี้มี 6 แห่ง และแม่สอดมีศักยภาพมากที่สุด อันดับสองคือสระแก้ว รัฐบาลจึงเร่งดำเนินการส่วนนี้ เพราะถ้าสร้างความเชื่อมโยงตรงนี้ได้ก็สามารถเชื่อมโยงไปได้ทั่วโลก เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ตนเข้ามาจะทำเรื่องดังกล่าวให้เร็ว เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลาง ถ้าไม่ทำวันนี้ คนอื่น็จะแย่งไปทำก่อน ซึ่งเป็นการเตรียมมาตรการลดความเสี่ยงในอนาคตซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องมองถึงอนาคตและมีวิสัยทัศน์เพราะถ้าไม่มีวิสัยทัศน์ก็จะหาแต่พรรคพวก อย่าลืมว่าประเทศสำคัญ ขออย่าคิดแค่ตัวเอง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 มีการเริ่มพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้วแต่ยังไม่เป็นรูปธรรมมีเพียงหลักการ แต่มีการขับเคลื่อนแล้วทั้งจัดสรรที่ดิน การเปลี่ยนมือต่างๆ วันนี้เราต้องยอมรับพื้นที่นี้มีความสำคัญของทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดีเพราะเราเชื่อมโยงกับตลาดบน เช่น สหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือเศรษฐกิจชายแดน จึงต้องเร่งพัฒนาเพื่อให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น การส่งออกตกลงไม่ใช่ความผิดใคร แต่ผิดที่เราไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนว่าจะมีสภาพเศรษฐกิจที่ตกลงแบบนี้ ประกอบกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ความมั่นคงมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจที่สุดเป็นบ่อเกิดของเศรษฐกิจ สังคมและอื่นๆ อีกมากมายในการพัฒนาประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ มีความขัดแย้ง มีการต่อสู้กัน ก็ทำอะไรไม่ได้แน่ๆ เพราะจะมีคนใช้ความรุนแรงทำให้เกิดความเดือดร้อนขึ้น วันนี้ขออย่ามีอีกเลย

"ถ้าทุกคนรู้ว่าก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 เกิดอะไรขึ้น เรามีความเสี่ยงเป็นรัฐล้มเหลว เพราะขัดแย้ง มีการใช้กำลังต่อสู้กัน ขอให้ฟังและคิดว่าจะเชื่อตนหรือไม่ ไม่เคยคิดว่าต้องมายืนตรงนี้ รวมทั้งพี่ๆ ของตนด้วย แต่วันนี้จำเป็นต้องมาเพื่อแก้ปัญหา เข้ามาเพื่อหยุดความรุนแรง ปลดล็อคสิ่งต่างๆ ที่รัฐบาลขับเคลื่อนไม่ได้ เลือกตั้งหรือลาออก ไม่ได้ จึงมีอย่างเดียวคือ ทหารต้องออกมา อยากให้ประชาธิปไตยก้าวหน้า มีนักการเมืองที่เก่ง ซึ่งเชื่อว่าเก่งกว่าตนแน่นอน เพราะเขาอยู่มานาน อยากให้ภาคประชาชนร่วมประสานงาน บูรณาการไม่ขัดแย้งกันอีก"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเข้าใจการทำงานของรัฐ ต้องมีความรู้ แนวความคิด มีชีวิตเพื่ออะไร เพื่อครอบครัวอย่างเดียวไม่พอ ประเทศต้องเดินหน้าไป ให้เร็วที่สุด เพราะเราหยุดมานาน ด้วยความขัดแย้งการเมืองต่างๆ และวันนี้ต้องร่วมกันแก้ปัญหาแต่จะดีทันใจหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่ามีความทับซ้อนแค่ไหน เราต้องร่วมมือเดินหน้าประเทศ ไม่ชอบตนไม่เป็นไร อย่างเกลียด อย่าโกรธประเทศและแผ่นดินของท่าน  ขณะนี้เรากับพม่ามีความเชื่อมโยงกัน รวมทั้งประเทศอื่นบ้านเรามีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งตนไม่ได้โอ้อวดแต่ทุกคนยืนยันว่าจะทำเพื่ออาเซียน ส่วนหน้าที่ตนทำเพื่อประเทศ ซึ่งเราต้องรวมอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ เพื่อเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่

"ที่ตนเข้ามาบางครั้งก็รู้สึกอายเพราะช่วยไม่ได้มาก แต่เราต้องทำให้คนมีภูมิคุ้มกันที่ดี โดยรัฐบาลได้นำเอาแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาขับเคลื่อนนำไปสู่การพัฒนาจากข้างบนลงล่างและจากล่างขึ้นข้างบนควบคู่กันไป ที่ผ่านปัญหาอยู่ที่นโยบาย การขับเคลื่อนและการปฏิบัติ ไปด้วยกันไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดจากการเมืองที่แต่ละกระทรวงอยู่กันคนละพรรค จึงเป็นบ่อเกิดของความไม่ทั่วถึง รัฐบาลจึงต้องปรับแก้โดยการบูรณาการ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งไม่ใช่แค่ทหารและตำรวจ อย่าคิดที่มีเหตุการณ์เป็นเพราะทหารหรือตำรวจไม่เก่ง แต่ต้องคิดว่าพื้นที่มีมาก บางครั้งดูไม่ไหวแต่เป็นหน้าที่คนไทยทุกคนที่ช่วยสอดส่องและเพิ่มในเรื่องเทคโนโลยีด้านความมั่นคง

"วันนี้ใครจะมาบิดเบือนเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก หากเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยก็เชิญ ทำได้แต่ต้องไม่รุนแรง หลายประเทศถามว่าทำไมผมเข้ามาก็เพราะมีอาวุธสงคราม มีการใช้ระเบิด จึงไม่ควรเกิดขึ้นอีก อย่าบอกว่าทหารเป็นคนทำ เพราะผมเป็นทหารมาตลอดชีวิต ไม่เคยสั่งรังแกประชาชน มีแต่ดูแล แต่ทหารมีสิทธิป้องกันตนเอง แต่ไม่ได้ใช้อาวุธตอบโต้กัน กำลังหาอยู่ว่าใครเป็นคนใช้อาวุธ ส่วนการนิรโทษไม่ใช่อำนาจผม เป็นเรื่องของกฎหมาย และก่อนที่จะเข้าสู่การปรองดองจึงต้องมีคณะกรรมการขึ้นมา ผมเสี่ยงชีวิตเข้ามาไม่ต้องการอะไรเลย ขอเพียงความเข้าใจจากทุกคน ถ้าคิดถึงประเทศความขัดแย้งก็ไม่เกิดไม่ถูกชักจูง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใครอยู่ในอำนาจก็ขอให้คิดถึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง แต่ถ้ามาโกหกประชาชนก็ไปไม่ได้ ขอเตือนเอาไว้และไม่ต้องมาเลือกตน ประเทศของเรามีความสุขไม่เคยเป็นเมืองขึ้น อาณานิคมของใคร แต่ถ้าเรามัวทะเลาะกันต่างชาติก็จะเข้ามาแทรกแซง ทำให้เราเกิดความสูญเสียทันที 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับคนที่มีปัญหาที่ดินทำกินที่เกิดจากการขยายการลงทุนต่างๆ อย่ากังวล รัฐบาลต้องดูแล เพราะมันจำเป็นต้องขยับขยาย รัฐบาลตนแก้ปัญหาให้หมดบอกอะไรมาหรือด่าผ่านมาให้สื่อ หนังสือพิมพ์ ตนก็เอามาดูและให้รัฐมนตรีไปทำ หากทำได้ก็ทำให้ ส่วนเรื่องการปฏิรูป ไม่ได้ทำ 2 ปีเสร็จ แต่มันต้องคิดว่าจะทำอย่างไร การปฏิรูปจึงจะเกิดหากตนไม่อยู่แล้ว 

"เราจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้สิ่งที่ทำวันนี้เป็นอย่างต่อเนื่องในอีก 10-20 ปี ท่านไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นหรือ จะให้มันแกว่งไปแกว่งมาแบบนี้หรือ ที่ตนพูดคือย้อนถึงเรื่องรัฐธรรมนูญด้วย ท่านไปดูเอาแล้วกัน มีหลายมาตรา และต้องคิดเป็นแล้วว่า ประเทศไปได้หรือไม่ และคิดว่าถ้าไม่มีตัวนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น อย่าให้เขามาชี้นำว่าไม่เป็นประชาธิปไตยสากล เรามีมา 83 ปีแล้ว และมันเป็นอย่างนี้ไง ท่านต้องคิดเอง ต้องคิดเป็นแล้ว เราต้องรีบสร้างตัวเองให้เขัมแข็ง ซึ่งจะมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเมย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เพื่อลดความแออัด ส่งของส่วนเส้นเดิมจะให้เป็นส่งแต่คน แยกเส้นทางกัน รู้แบบนี้อย่าเพิ่งไปซื้อที่ไว้ก่อนนะ เพราะเดี๋ยวราคาจะสูง แล้ววันหลังจะใช้ลับลวงพรางบ้างซะเลย ออกแบบถนนล่วงหน้าแล้วเปลี่ยนเส้นใหม่ เอาให้เข็ดเลย พวกซื้อที่ดักหน้า"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า"ฝากความหวังไว้กับท่าน ทั้งภาคการเมือง วันหน้าใครจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ก็เป็นเถอะครับ ตนก็ต้องยกมือไหว้เขาอยู่ดี เพราะเป็นประชาธิปไตยแล้ว เพราะเป็นผู้นำบ้านเมือง ตนก็ต้องไหว้ ที่ผ่านมาตนก็ไม่รังเกียจใครอยู่แล้ว แต่ทำไมเขาถึงรังเกียจตนนักก็ไม่รู้ หรือตนไปบังคับใจเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขอให้ยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ได้ ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว ก็ขอเวลาให้พวกเราได้ช่วยกัน วางอนาคตด้วยสองมือ และสมองของพวกเรา อย่าให้ใครเข้ามานำไปในทางที่ผิดโดยเด็ดขาด อันตรายต่อตัวเอง อันตรายต่อประเทศ ต้องสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างบรรยากาศให้น่าลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจขยายต่อไป" 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ปฏิรูป และวันหน้าใครชวนไปเผา ไปประท้วง อย่าไปนะ เพราะจะทำให้ทุกอย่างแรงขึ้น ซึ่งก็ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งตนก็เห็นใจข้าราชการบางคนอายุ 70-80 ปีแล้วแต่ก็ต้องมาติดคุกตอนแก่ ซึ่งเขาไม่มีเจตนา แต่ถูกคนที่มีอำนาจทางฝ่ายปกครองบีบบังคับ              

"ส่วนเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่แยกราชประสงค์ เรื่องของคดีมีความคืบหน้าไปตามลำดับ อย่าไปด่าตำรวจเขานักเลย ตำรวจ ทหาร มีกี่คนในพื้นที่ก็ต้องกระจายกันไปทั่ว ทำงานหลายปี จะไปเฝ้าไหวไหม แต่ก็มีทั้งการป้องกัน ป้องปราม และปราบปราม ฟื้นฟูตามหลักการทั้งหมด และทุกคนต้องช่วยกันเป็นตาสับปะรดว่า มีใครผิดปกติอะไรหรือไม่ มีใครหน้าแปลกๆ เอากระเป๋าจะไปทิ้งที่ไหน ให้เรียกให้เจ้าหน้าที่ ต้องช่วยกัน ไม่ใช่เกิดเหตุแล้วมาโทษทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ ท่านโทษใครไม่ได้อีกแล้ว อย่าบอกว่าจ้างมาแล้ว เสียภาษีมาแล้ว เพราะเขาก็เสียภาษีเหมือนกัน เสียมากด้วยเพราะหักจากที่จ่าย โกงไม่ได้ ตนก็โดนตามเงินเดือน"นายกฯกล่าว 

"เวลาผมพูดถึงประเทศไทย พูดถึงบ้านเมืองแล้วผมเสียใจทุกที เห็นเด็กร้องเพลง“วันพรุ่งนี้”แล้วน้ำตาจะไหล ไม่รู้จะทะเลาะกันทำไม ต้องเดินหน้าให้ได้ หลายอย่างพูดอะไรไปก็ผิดไปหมด ต้านไปหมด แต่ตัวเองไม่ทำ วันนี้ต้องคำนึงถึงเกียรติยศศักดิ์ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และศักดิ์ศรีของประชาชน ข้าราชการต้องนับถือเขา ต้องนับถือกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ลูกไล่ ไม่ใช่เจ้านาย ขอให้คิดแบบที่ผมคิด ผมไม่มีอะไรกับพวกท่านเลย นี้อายุก็จะ 62  ปีแล้ว เจอผมแล้วผิดหวังไหม ว่าไอ้นี้มันบ้ากว่าในทีวี ผมจริงใจ และคนจริงใจก็เสียดังอย่างนี้แหละ"นายกฯ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องยาเสพติดสำคัญที่สุด นโยบายรัฐบาลวันนี้ ยาเสพติดอย่าไปเกี่ยวข้อง กำลังเร่งทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ถ้าปล่อยปะละเลย ถูกย้ายทั้งหมด อะไรที่ขัดคำสั่งคสช.ย้ายหมด มันจะได้ดีขึ้นสักระยะหนึ่ง พอทุกอย่างดีขึ้น ทุกคนอยู่ในกฎกติกาก็พอแล้ว ตนสร้างแค่นั้น วันหน้าก็อยู่กันได้ ขอร้อง ขอโทษ และขอความร่วมมือ