เรือแชมป์ทุ่มเงินซื้อนักเตะ เดอบรอยน์แพงสุด

เรือแชมป์ทุ่มเงินซื้อนักเตะ เดอบรอยน์แพงสุด

บทสรุปหลังปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรก “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ครองแชมป์ชอปปิ้งทุ่มทุนมากสุด แตะหลัก 8,000 ล้านบาท

 ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ผู้เล่นค่าตัวแพงสุด ด้าน ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงมีเงินสะพัดมากที่สุด จ่ายเป็นสถิติใหม่มากกว่าเมื่อปีก่อน

เดอลอยตต์ บริษัทที่ปรึกษาการเงินชื่อดัง ได้เปิดเผยบทสรุปตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกที่เพิ่งปิดตัวลงไปเมื่อช่วงคืนวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฎว่า ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงเป็นลีกที่จ่ายเงินมากที่สุดเหมือนปีก่อน หลังจากที่ 20 สโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้มีการทุ่มทุนซื้อผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพเป็นสถิติใหม่ด้วยจำนวนเงินรวมกันสูงถึง 870 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.35 หมื่นล้านบาท) ซึ่งมากกว่าเมื่อฤดูกาลก่อนที่ใช้จ่ายไปทั้งหมด 835 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.17 หมื่นล้านบาท) ขณะที่ ส่วนอันดับ 2 เป็นของ ศึกกัลโช ซีรีส์ เอ อิตาลี จ่ายเงินไปทั้งหมด 405 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.02 หมื่นล้านบาท) ส่วน ศึกลาลีกา สเปน เป็นอันดับ 3 จ่ายเงินไปทั้งหมด 400 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท)

ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ครองตำแหน่งแชมป์ชอปปิ้งลงทุนซื้อนักเตะหน้าใหม่มากที่สุด จากการควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อ 4 แข้งดังอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟาเบียน เดลฟ์, นิโคลัส โอตาเมนดี และ เควิน เดอ บรอยน์ เข้ามาเสริมทัพรวมกันสูงถึง 160 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,000 ล้านบาท) ส่วนอันดับ 2 เป็นของ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายไปทั้งหมด 115.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,765 ล้านบาท) โดยเฉพาะการคว้าตัว อองโธนี มาร์เชียล กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสวัย 19 ปีมาจาก โมนาโก ของฝรั่งเศส ในราคา 36 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสถิตินักฟุตบอลอายุไม่เกิน 20 ปีที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ทุบสถิติเดิมของ ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษของ “ปีศาจแดง” ตอนย้ายมาจาก “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ในปี 2014 ด้วยราคา 31 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,550 ล้านบาท)

ด้าน เดอ บรอยน์ ปีกทีมชาติเบลเยียม เป็นนักเตะค่าตัวสูงสุดในการซื้อขายรอบแรก หลังจากที่ แมนฯ ซิตี้ ไปคว้าตัวจาก “หมาป่า” โวล์ฟสบวร์ก ทีมดังแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ในราคา 54 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) ขณะที่ สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษของ “เรือใบสีฟ้า” มีค่าตัวแพงเป็นอันดับ 2 เมื่อย้ายจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คู่แข่งร่วมลีกเดียวกัน ในราคา 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,450 ล้านบาท)

อเลกซ์ ธอร์ป นักวิเคราะห์จากสปอร์ต บิซิเนส กรุ๊ป ของ เดอลอยท์ เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใช้จ่ายเงินมากที่สุด เนื่องจากเกมของพรีเมียร์ลีก ทำเงินได้มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะเงินค่าลิขสิทธิ์ส่วนแบ่งจากการถ่ายทอดสดที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 70% และทั้ง 20 สโมสรยังโกยเงินรายรับได้เป็นจำนวนมหาศาลจนเข้าไปติดโผ 40 อันดับแรกของทีมลูกหนังทั่วโลกได้ทั้งหมด ทำให้มีการใช้จ่ายเงินในตลาดซื้อขายนักเตะตลอดปี 2015 ทั้ง 2 รอบ ด้วยมูลค่ารวมทั้งหมดมากกว่า 1,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท) เป็นครั้งแรก