ผู้ว่าฯแจงวุ่น! ปมร้อนเสนอขอเปลี่ยนชื่อ 'จังหวัดนครลำปาง'

ผู้ว่าฯแจงวุ่น! ปมร้อนเสนอขอเปลี่ยนชื่อ 'จังหวัดนครลำปาง'

ลำปางวุ่น หลังเสนอขอเปลี่ยนชื่อ เป็น "จังหวัดนครลำปาง" ผู้ว่าฯสั่งส่วนราชการ นายอำเภอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาชน

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวในที่ประชุมเสวนายามเช้าประจำสัปดาห์ ที่ห้องประชุมเวียงละกอน ศาลากลางจังหวัดลำปาง ถึงกรณีการเปลี่ยนชื่อจังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดนครลำปาง ที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนในขณะนี้ว่า หลังผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางออกมาให้สัมภาษณ์คัดค้านการดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัดลำปางเป็นจังหวัดนครลำปาง โดยระบุว่าการเปลี่ยนชื่อจังหวัดจะกระทบต่อประชาชนชาวลำปาง ตั้งแต่การทำบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือบัตรสำคัญที่ทางราชการออกให้นั้นได้สร้างความสับสน และเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อคนลำปางอย่างมาก จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายอำเภอทุกอำเภอ และกำนันผู้ใหญ่บ้านชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนชาวลำปางให้ถูกต้อง ดังนี้

1.กรณีจังหวัดลำปาง จะไปใช้ชื่อ “นครลำปาง” เป็นการกลับไปใช้ชื่อเดิมไม่ใช่การเปลี่ยนชื่อจังหวัดเหมือนกับ จังหวัด หรือ จังหวัดอื่นที่ตั้งใหม่ เพียงแต่ต้องการเติมคำว่า “นคร” กลับไปเหมือนชื่อที่เคยใช้ในอดีตเมื่อ 100 กว่าปีก่อน โดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง ที่มี ดร.อุดมศักดิ์ ศักดิ์มั่นวงศ์ เป็นประธานฯ พร้อมคณะทำงานซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้ประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำปางได้นำเสนอต่อที่ประชุมประจำเดือนส่วนราชการจังหวัดลำปาง ที่ประชุมให้ความเห็นชอบตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 เพราะตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 2005.3/ว 1266 ลงวันที่ 9 เมษายน 2547 กำหนดขั้นตอนวิธีการขอเปลี่ยนชื่อจังหวัดจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก กรมการจังหวัด และ สภาจังหวัด

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางไม่ใช่ผู้เสนอ ขอกลับมาใช้ชื่อจังหวัดนครลำปาง ผู้เสนอคือ สภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง ซึ่งได้หยิบยกหลักฐานประวัติศาสตร์ลำปางที่มีมายาวนาน 1,300 กว่าปี ตั้งแต่ยุคที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงปฏิรูปมณฑลเทศาภิบาล ได้เปลี่ยนชื่อจังหวัดต่างๆ เข้าสู่การปกครองสมัยใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2459 จังหวัดลำปาง จึงได้ชื่อที่เปลี่ยนจากมณฑลมาเป็น จังหวัดลำปาง แต่พระราชนิยม หรือ ประเพณีนิยม ไม่ว่าจะเป็นพระราชหัตถเลขา หรือบันทึกต่างๆในการตรวจราชการของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่เสด็จขึ้นมาทางหัวเมืองฝ่ายเหนือ และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ก็ทรงเรียก จังหวัดลำปาง ว่า นครลำปาง เป็นคำพูดติดปากมาตั้งแต่เดิม ที่สถานีรถไฟลำปาง ก็ยังให้คำว่า “นครลำปาง” มาจนถึงปัจจุบัน”

2.องค์กรที่มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบการเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด คือ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ไม่ใช่ฝ่ายบริหารหรือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นไปตามเจตนารมย์ที่จะรับฟังตัวแทนของประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทุกอำเภอในเขตจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด มาจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งเข้ามา เป็นตัวแทนของประชาชนทุกภาคส่วน มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบเท่านั้น การกำหนดขั้นตอนหรือวิธีการเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบที่กำหนดไว้ อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ละเลยล่าช้าเกินสมควร

3.กรณีที่จะเรียกให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ หัวหน้าส่วนราชการตามกฎหมายบริหารราชการแผ่นดิน ไปชี้แจงข้อเท็จจริงใดๆ เป็นหน้าที่ของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง หรือ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหัวหน้าส่วนราชการจะชี้แจงด้วยวาจาหรือเป็นหนังสือก็ได้ ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540

4.ความห่วงใย และความเข้าใจคาดเคลื่อนว่าจะเกิดปัญหากระทบต่อประชาชนในการเปลี่ยนแปลงเอกสารทางราชการบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง หรือ ป้ายต่างๆ นั้น โดยทั่วไปเอกสารทางราชการจะมีบทเฉพาะกาลคุ้มครอง สามารถใช้ได้ต่อไปจนกว่า จะหมดอายุได้อยู่แล้ว เมื่อทำใหม่จึงจะใช้ชื่อที่เปลี่ยนแปลง จึงไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด

นายธานินทร์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการนำเสนอเท่านั้น เมื่อสภา อบจ.ลำปาง จะเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบก็เป็นเป็นเอกสิทธิ์ของสภาเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจังหวัด หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดอยากจะตั้งชื่อขึ้นมาเอง เมื่อมีความเห็นออกมาอย่างไรก็ตามจังหวัดก็จะได้นำเรื่องส่งให้กระทรวงมหาดไทย เท่านั้น ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปว่า เปลี่ยนแล้วจะทำให้จังหวัดลำปางดีขึ้นอย่างไร ตรงนี้ไม่ได้อยู่ที่ชื่อ แต่อยู่ที่ยุทธศาสตร์โอกาส และศักยภาพของลำปาง ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลมากกว่าว่าจะมองศักยภาพของลำปาง ให้กลับมาเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีตหรือไม่ ซึ่งขณะนี้จังหวัดก็พยายามผลักดันทั้งการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ทุกรูปแบบลำปางจะเดินไปในทิศทางใด ก็อยู่คนลำปาง ไม่ใช่คนที่อื่น