ออกหมายจับแก๊งบึ้มรายที่8 สามีชาวตุรกี'วรรณา'

ออกหมายจับแก๊งบึ้มรายที่8 สามีชาวตุรกี'วรรณา'

โฆษก ตร.เผยศาลอนุมัติหมายจับหนุ่มตุรกี สามี “วรรณา” พันแก๊งบึ้มราชประสงค์-สาทร ย้ำเป็นหมายจับรายที่ 8 เปรยเตรียมออกหมายจับเพิ่ม

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า ขณะนี้ศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคนที่ 8 ในคดีดังกล่าวได้แก่ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู (Emrah Davutoglu) สามีชาวตุรกีของ น.ส. วรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ ในข้อหา “ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยอยู่ในกลุ่มผู้จัดหาที่พักในประเทศไทยให้ขบวนการดังกล่าว

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่านายเอ็มระห์ อยู่กับน.ส. วรรณา ด้วยกันหรือไม่ เพราะหลังจากที่ น.ส.วรรณา ติดต่อผ่านทางเจ้าหน้าที่กองปราบปรามล่าสุด ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา และมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย จึงอยากให้ น.ส.วรรณา รีบติดต่อมาที่สถานทูตไทยประจำประเทศตุรกี ขณะเดียวกันก็ยังไม่ชี้ชัดว่า น.ส.วรรณา อยู่ที่ประเทศตุรกีจริงหรือไม่ จนกว่า น.ส.วรรณา จะติดต่อมายังสถานทูตอีกครั้ง ส่วนการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ที่ น.ส.วรรณา ใช้สื่อสาร ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมายระหว่างประเทศ 

"หลังจากนี้คาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก แต่ยังไม่ทราบว่ามีกี่คน ส่วนการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของผู้ต้องสงสัยที่มีการควบคุมตัวได้ที่ถนนเลียบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เขตพื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวานนี้(1 ก.ย.) ล่าสุดพบว่าลายนิ้วมือแฝงตรงกับวัตถุที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุระเบิดภายภายในห้องพักเลขที่ 414 อาคารพูลสวัสดิ์ อพาร์ทเม้นต์ ย่านหนองจอก และเชื่อว่าชายคนนี้อาจเป็นคนวางระเบิด หรือเคลื่อนย้ายระเบิดในวันเกิดเหตุ ขณะเดียวกันก็จะต้องมีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ามีการช่วยเหลือให้คนร้ายเดินทางเข้า-ออกประเทศหรือไม่ ซึ่งหากตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดหรือรับสินบน จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย"โฆษก ตร.กล่าว

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กลุ่มคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับชาวอุยกูร์หรือไม่ แต่จากข้อมูลในเบื้องต้นสามารถระบุได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุคือผู้เสียผลประโยชน์จากการปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของทางรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเพิ่มมาตรการ การตรวจตราบุคคลเข้าออกระหว่างประเทศ ให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น รวมถึงการติดตั้งระบบตรวจสอบใบหน้า ไบโอเมตริก เพื่อตรวจสอบข้อมูลใบหน้าของผู้เดินทางเข้าออกประเทศอีกด้วย