แบงก์ชาติเผยศก.อีสานทรงตัว

แบงก์ชาติเผยศก.อีสานทรงตัว

แบงก์ชาติอีสานแถลงผล ภาวะเศรษฐกิจอีสานเดือนก.ค. พบยังคงทรงตัว รายได้เกษตรกรหดตัวน้อยลง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังอยู่ในระดับต่ำ

ขอนแก่น-นายชาญชัย บุรถาวร ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แถลงภาวะเศรษฐกิจภาคอีสาน ในเดือนกรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา พบว่า การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนยังคงทรงตัว โดยรายได้เกษตรกรหดตัวน้อยลง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังอยู่ในระดับต่ำที่ 36.9 (ลดลงจากระดับ 41.9 ในเดือนก่อน) เนื่องจากประชาชนยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจทำให้ระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยยอดการค้าปลีกสินค้าอุปโภค-บริโภค สินค้าในครัวเรือน และยอดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชะลอลง ขณะที่การบริโภคสินค้าคงทนหดตัวมากขึ้น สะท้อนจากยอดจดทะเบียนรถทุกประเภทที่ลดลง ด้านการบริการ รายได้ภาคบริการขยายตัวจากเดือนก่อน จากสาขาโรงแรมและภัตตาคาร สำหรับอัตราการเข้าพักโรงแรมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 45.5

การผลิตภาคเกษตรกรรม ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนจากราคาพืชผลเป็นสำคัญ โดยราคามันสำปะหลังปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 21.7 เนื่องจากประเทศจีนยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชะลอลงเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านราคาข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวหดตัวน้อยลงจากเดือนก่อน เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการ ขณะที่ราคายางพาราและราคาข้าวเปลือกหอมมะลิหดตัวมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประเทศคู่ค้าชะลอคำสั่งซื้อ รวมทั้งมีการแข่งขันที่มากขึ้นในตลาดโลก สำหรับด้านผลผลิตพืชหดตัวตามผลผลิตข้าวนาปรังเป็นสำคัญ เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง

การใช้จ่ายงบลงทุนภาครัฐ  ชะลอตัวจากเดือนก่อนตามการชะลอตัวในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้างของกรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทานเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม แม้ว่างบลงทุนโดยรวมจะชะลอตัว แต่การเบิกจ่ายในหมวดเงินอุดหนุนเฉพาะกิจของสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นยังขยายตัวต่อเนื่อง ตามการเบิกจ่ายเพื่อพัฒนาการศึกษา เช่น การก่อสร้างอาคารเรียน-อาคารเอนกประสงค์ การเบิกจ่ายเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน เช่น โครงการก่อสร้างลานกีฬา-สนามฟุตซอล และการเบิกจ่ายเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้าง-ซ่อมแซมถนนคอนกรีต เป็นต้น

การลงทุนภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนตามภาคการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์เป็นสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ยังคงขยายตัว กอปรกับเงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการขยายตัวจากเดือนก่อนตามเม็ดเงินลงทุนของโรงงานขนาดใหญ่ ได้แก่ กิจการซ่อมเคาะพ่นสีรถยนต์ กิจการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และก๊าซชีวภาพจากขยะมูลฝอยชุมชน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนของกิจการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI หดตัวจากเดือนก่อน ตามการหดตัวในเกือบทุกหมวดอุตสาหกรรม ยกเว้นหมวดเคมีภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติกที่ยังขยายตัวในกิจการผลิตเยื่อกระดาษที่จังหวัดมหาสารคาม ด้วยเงินลงทุน 5,500 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80.1 ของเงินลงทุนทั้งหมด

การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวจากเดือนก่อน ตามการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำตาล เนื่องจากโรงงานมีการละลายน้ำตาลดิบเพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำตาลทรายขาวเพิ่มขึ้น ตามคำสั่งซื้อที่มีมากในเดือนนี้ รวมทั้งการผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับปกติหลังจากที่มีการใช้สต็อกที่สะสมมาก่อนการปรับอัตราภาษีสุราได้ลดลง และมีบางสายการผลิตปิดซ่อมบำรุงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ระดับ 79.0 ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 80.6 ในเดือนก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบร้อยละ 1.40 และติดลบน้อยลงจากเดือนก่อนตามราคาอาหารสดและอาหารสำเร็จรูปที่สูงขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.79 สูงขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากราคาอาหารสำเร็จรูปที่สูงขึ้นเป็นสำคัญ สำหรับอัตราการว่างงาน ยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.0

ภาคการเงิน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 เงินฝากคงค้างธนาคารพาณิชย์ชะลอลงจากเดือนพฤษภาคมตามเงินฝากออมทรัพย์ของส่วนราชการที่มีการทยอยเบิกใช้งบประมาณมากขึ้น ด้านสินเชื่อคงค้างธนาคารพาณิชย์ทรงตัวจากเดือนก่อน โดยยอดสินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัวเล็กน้อยจากธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ขณะที่สินเชื่อภาคครัวเรือนชะลอลงเล็กน้อยจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง รวมทั้งธนาคารพาณิชย์มีความระมัดระวังมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ