บอร์ดก.ค.ศ.ให้เลื่อนประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่

บอร์ดก.ค.ศ.ให้เลื่อนประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่

บอร์ดก.ค.ศ.ให้เลื่อนประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่ รอปรับเกณฑ์พีเอในส่วนการกลั่นกรองที่ให้โละการสอบ และหาวิธีการเปิดช่องให้ครูสอนเก่ง

รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่มีพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือและมีมติเห็นชอบให้ปรับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนเป็นวิทยฐานะ “ชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ” หรือ ว7/2558ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement:PAพีเอ)ซึ่งใช้ประกอบการเข้าสู่วิทยฐานะที่เดิมผู้เข้ารับการประเมินจะต้องผ่าน2ขั้นตอน คือ การกลั่นกรองด้วยวิธีการสอบวัดความรู้ ตาม8กลุ่มสาระการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และดูผลงานทางวิชาการซึ่งจะวัดจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กซึ่งในส่วนของขั้นตอนการสอบนั้น ที่ประชุมเห็นว่าอาจจะทำให้ครูที่มีความความรู้ มีประสบการณ์ สอนเก่ง แต่ไม่ถนัดวิชาการสอบไม่ผ่าน

ดังนั้นจึงมีมติ ชะลอการสอบตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งเดิมก.ค.ศ.ประกาศจัดสอบวันที่1กันยายน ออกไปก่อน และให้ตั้งคณะอนุกรรมการก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจ ที่มีปลัดศธ.เป็นประธาน พิจารณาปรับแก้หลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยยึดแนวทางลดภาระ และไม่ให้ครูออกจากห้องเรียน เพราะต้องเตรียมตัวสอบ รวมถึงให้ไปพิจารณาการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะเกณฑ์การประเมิน ว17/2552ซึ่งเป็นการทำผลงานทางวิชาการ และยังไม่ประกาศยกเลิก ที่ประชุมก็ให้ไปดูว่ายังจำเป็นต้องคงอยู่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพบการทำผลงานทางวิชาการเป็นการดึงครูออกจากห้องเรียน และสุดท้ายให้การประเมินทั้งหมดวัดที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก

"ขณะนี้ได้อนุกรรมการฯ โดยมีปลัด ศธ. เป็นคณะทำงานและสรุปให้รัฐมนตรีว่าการศธ. พิจารณาใน2สัปดาห์ ซึ่งผมได้ก.ค.ศ. ไปนำข้อมูลทั้งหมดมาให้ดู และต้องหากระบวนการที่เพิ่มกำลังใจให้ครูสอนดี สอนเก่ง แต่ความรู้ทางวิชาการอาจจะไม่แน่นเพียงพอด้วย ซึ่งเดิมจะเริ่มใช้หลักเกณฑ์กลั่นกรองครูที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ารับการ ประเมินวันที่1ก.ย.แต่ก็ต้องเลื่อนไปก่อนเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม โดยก.ค.ศ.ได้รายงานว่ามีครูที่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินไม่ต่ำกว่าแสนคน โดยผมจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้สามารถประเมินตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้เร็วที่สุด"รศ.นพ.กำจร กล่าว

อนึ่ง หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนเป็นวิทยฐานะ "ชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ" ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement)นั้นผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ก.ค.ศ. ในสมัยพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ เพื่อให้การขอเข้าสู่วิทยาฐานะเป็นการประเมินโดยพิจารณาจากผลสัมฤทธิ์ของเด็กมากกว่าการทำผลงานวิชาการแบบที่ผ่านมา และได้ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามี วิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะเดิม ตาม ว13/2556แต่หากผู้ที่ต้องการจะยื่นการประเมินวิทยฐานะตาม ว13ก็ยังคงสามารถยื่นคำขอประเมินได้ภายในเดือนธันวาคม2558เท่านั้น