'พล.ต.อภิวัฒน์' ผู้ต้องหาคดียูฟัน มอบตัว

'พล.ต.อภิวัฒน์' ผู้ต้องหาคดียูฟัน มอบตัว

"พล.ต.อภิวัฒน์" ผู้ต้องหาคดียูฟันรายสำคัญมอบตัว-อ้างบริสุทธิ์ใจเชื่อมั่นการทำงานตำรวจ

พล.ต.อธิวัฒน์ สุ่นปาน อายุ 67 ปี ประธานที่ปรึกษาของบริษัทยูฟัน ประเทศไทย ทำหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงมีอำนาจในการสั่งการของบริษัท และเป็นตัวแทนบริษัทในการลงนามหรือทำสัญญาต่าง ๆของบริษัทยูฟัน พร้อมด้วย นางจิราภิมนช์ สุ่นปาน อายุ 60 ปี ภรรยา ได้เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาด้วยสายการบินการ์ต้า เที่ยวบินที่ คิวอาร์ 830 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยมีพล.ต.ท. สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมารับตัว โดยพลตรีอธิวัฒน์ เป็นผู้ต้องหารายที่ 81 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1300/2558 ในฐานความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมดำเนินธุรกิจขายประเภทตรงวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียน ชักชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายและตกลงให้ผลตอบแทนจากการหาสมาชิก ร่วมกันประกอบธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิคโดยไม่ได้รับอนุญาต นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ 

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีการทำธุรกรรมรับโอนเงิน จำนวน 13,551,000 บาท ส่วนนางจิราภิมนช์ ภรรยาของพลตรีอธิวัฒน์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1333/2558 ในฐานความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่านางจิราภิมนช์ มีการทำธุรกรรมทางการเงิน จำนวน 53,092,975 บาท พล.ต อธิวัฒน์และภรรยา จึงถือว่าเป็นผู้ต้องหารายสำคัญระดับต้น ๆในคดียูฟัน เป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก โดยการเข้ามอบตัวครั้งนี้หลังจากที่หลบหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา

แต่ถูกกดดันอย่างหนัก ทั้งจากเครือข่ายผู้บังคับใช้กฎหมาย ตำรวจสากล ทำให้หมดทางหลบหนี จึงให้ลูกชายซึ่งเป็นทนายความติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ

ด้านพล.ต.อธิวัฒน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนเดินทางไปต่างประเทศ เมื่อวันที่ 10 เมษายนนั้น เนื่องจากจะต้องไปร่วมงานรับปริญญาของลูกชายและอยู่จนกระทั่งลูกชายฝึกงาน ซึ่งมีการจองตั๋วเดินทางไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์แล้ว เมื่อเสร็จธุระจึงได้เดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งในวันนี้ตนได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ เนื่องจากมีความบริสุทธิ์ใจและเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ โดยก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าบริษัท ยูฟัน เป็นบริษัทที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ที่ผ่านมารู้จักกับทางนายอาทิตย์ ปานแก้ว ผ่านทางธุรกิจเครื่องสำอางค์ ที่เคยร่วมลงทุนด้วยกันแต่ประสบปัญหาขาดทุน ต่อมานายอาทิตย์ได้ชักชวนให้มาร่วมลงทุนกับทางบริษัทยูฟัน แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการลงทุนได้ ซึ่งตนไม่ได้เป็นผู้บริหาร เป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น รวมถึงรู้จักกับนายดาโต๊ะ แดเนียลเท ประธานกลุ่มยูฟันกรุ๊ป ผ่านทางล่ามชาวจีน แต่หลังจากที่มีกระแสข่าวของบริษัทยู

ฟันฯออกมา ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย หลังจากนี้จะให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ และฝากไปถึงผู้ต้องหาคนอื่นที่ยังไม่มอบตัวให้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ