AH - เก็งกำไร

AH - เก็งกำไร

คาดครึ่งปีหลังเริ่มฟื้นตัว แต่ยังหวั่นอัตรากำไรที่ผันผวน

2H58 คาดยอดขายชิ้นส่วนดีขึ้น จากออร์เดอร์กระบะที่เพิ่มขึ้น

คาดว่ายอดขายสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ใน 2H58 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นราว 10% จากครึ่งปีแรก ตามสถานการณ์การผลิตที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ จากการผลิตโมเดลใหม่ของค่ายรถยนต์ที่เริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะโตโยต้าที่มีการปรับโมเดลรถกระบะในช่วง 2Q58 ซึ่งใน 3Q58 เริ่มกลับมาผลิตตามปกติ โดย 2H58 คาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์จะปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรกราว 9% จาก 9.35 แสนคัน เป็น 1.02 ล้านคัน ส่วนธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่มาเลเซียแนวโน้มยังคงปรับลดลง YoY เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีใหม่ของทางมาเลเซียตั้งแต่ เม.ย 58 ที่ผ่านมาทำให้ราคารถยนต์สูงขึ้น

ปรับลดประมาณการปี 58 สะท้อนอุตสาหกรรมที่ฟื้นช้า มาร์จิ้นที่ต่ำกว่าคาด

เราคาดกำไรใน 2H58 จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก และพลิกกลับมาเติบโต YoY เนื่องจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่กลับสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะออร์เดอร์ผลิตชิ้นส่วนรถกระบะให้กับโตโยต้าที่กลับเข้ามา รวมถึงโมเดลใหม่ๆที่มีคำสั้งซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้เพิ่มราว 5 รุ่น อย่างไรก็ตามภาพรวมปี 58 เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลงจากเดิม 9% เหลือ 348 ล้านบาท (-5%YoY) สะท้อนการปรับลดสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ลงจากเดิม 2 ล้านคัน เหลือ 1.95 ล้านคัน ซึ่งทำให้เราปรับลดประมาณการยอดขายลงจากเดิม 3% เหลือ 1.48 หมื่นล้านบาท และปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิม 4.5% เหลือ 3.9% สะท้อนผลของยอดขนาดยอดขายที่ลดลง และอัตรากำไรในครี่งปีแรกที่น่าผิดหวัง

มีแผนรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มรายได้ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

บริษัทมีแผนจะรุกธุรกิจต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมทุนกับบริษัทที่อยู่ในมาเลเซียและอินเดีย ซึ่งเดิมบริษัทมีธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อยู่แล้ว โดยบริษัทเห็นโอกาส ว่าการลงทุนในการผลิตชิ้นส่วนที่ประเทศมาเลเซียจะลดขีดจำกัดด้านกำแพงภาษีที่เก็บสูงถึง 60-70% ซึ่งจะได้รับยกเว้นหากตั้งโรงงานผลิตและใข้วัตถุดิบในประเทศ อย่างไรก็ตามโครงการลงทุนดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน จึงยังไม่ได้อยู่ในประมาณการของเรา

คงคำแนะนำ “เก็งกำไร”คาดผลประกอบการผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว

เราคาดการณ์ผลประกอบการจะเริ่มกลับมาเติบโตใน 2H58 แต่โดยภาพรวมทั้งปีถือว่ามีผลประกอบการที่แย่กว่ากลุ่มอุตสาหกรรม และจากการที่หุ้น AH เป็นหุ้นที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 4-5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ อยู่ที่ราว 10-20% จึงทำให้ผลประกอบการมีความผันผวนสูงหากยอดขายลดลงต่ำกว่าระดับปกติ หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงจากเดิมที่ 14.20 บาท เหลือ 13 บาท สะท้อนการปรับลดประมาณการกำไร อิงค่าเฉลี่ย P/E อุตสาหรรมที่ 12 เท่า