AOT - ซื้อ

AOT - ซื้อ

ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง เป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อสะสมก่อนไฮซีซั่น

ประเด็นการลงทุน

ในมุมมองของเราการปรับตัวลงของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการระเบิดย่านราชประสงค์และคาดการณ์การเติบโตที่หดตัวลงของรายได้ค่าสัมปทานนั้นมากเกินไป เราเชื่อว่าผลกระทบจากการระเบิดจะมีผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้นและผลกระทบที่ป็นไปได้จากรายได้ค่าสัมปทานที่ต่ำลงน่าจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเราคิดว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในปัจจุบันซึ่งมีค่า PER ณ สิ้น ก.ย. 58 ที่ 23.7 เท่า ใกล้เคียงกับค่าต่ำสุดในปี 2557 (ช่วงที่มีการประกาศกฏอัยการศึกและส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารลดลง 30%) และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 31.7 เท่า เรามองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนในการเข้าซื้อสะสม ก่อนที่จะถึงช่วงไฮซีซั่นในเดือน ต.ค.

แนวโน้มสถิติการจราจรทางอากาศเติบโตแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน

การฟื้นตัวของอุปสงค์การท่องเที่ยวไทยหนุนให้สถิติการจราจรทางอากาศมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยสถิติ 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค. 2557-ก.ค. 2558) แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมาก YoY จำนวนผู้โดยสารเติบโต 22% YoY มาอยู่ที่ 89 ล้านคน ในขณะที่เที่ยวบินเพิ่มขึ้น 15% YoY มาอยู่ที่ 588,800 เที่ยวบิน แนวโน้มการเติบโตนั้นต่อเนื่องจนถึงเดือน ส.ค. จนกระทั่งมีการระเบิดในย่านราชประสงค์ –โดยมีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในวันที่ 1-17 ส.ค. ที่ 27% YoY อย่างไรก็ตามตัวเลขสถิติการจราจรทางอากาศอ่อนตัวลงหลังจากที่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น จำนวนผู้โดยสารต่างชาติลดลง 15% เทียบกับจำนวนผู้โดยสารในต้นเดือน ส.ค. ในขณะที่ผู้โดยสารในประเทศลดลง 8% แม้กระนั้นก็ตามอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารยังคงแข็งแกร่งที่ 25.8% YoY ในช่วงเวลาดังกล่าว

ผลกระทบจากระเบิดคาดมีผลแค่ในระยะสั้น

ข้อมูลในอดีตชี้ว่า ตัวเลขสถิติกาจราจรทางอากาศมักดีดตัวกลับอย่างชัดเจนหลังเหตุรุนแรงหรือเหตุการณ์การเผชิญหน้าทางการเมืองที่ตึงเครียด โดยตัวเลขผู้โดยสารลดลงประมาณ 15% MoM เป็นเวลา 2 เดือนในช่วงที่เหตุการณ์มีความรุนแรงสูงสุด แต่จะดีดตัวกลับมาประมาณ 15% ภายใน 2-3 เดือนถัดมา ในทำนองเดียวกันราคาหุ้นของ AOT มักปรับตัวลดลง เมื่อมีเหตุการณ์ณ์ความไม่สงบทางการเมืองหรือเหตุการณ์ความรุนแรงอื่นๆ โดยจะลดลงเพียงแค่ 8-15% ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังเหตุการณ์ดังกล่าว แต่จะดีดตัวกลับมาที่ระดับราคาเดิมช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงใน 2 สัปดาห์ต่อมา โดยหากรอบนี้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวตามข้อมูลในอดีต

เราคาดสถิติการจราจรทางอากาศจะดีดตัวกลับมาภายใน 1-2 เดือน ดังนั้นเราคาดว่าทั้งสถิติการจราจรทางอากาศและราคาหุ้นของ AOT มีแนวโน้มกลับมาแข็งแกร่งเมื่อถึงช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นไป

ความกังวลมากต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้สัมปทานที่อาจชะลอตัวลงนั้นมากเกินไป

จากการวิเคราะห์ของเราบ่งชี้ว่า กรณีที่เลวร้ายที่สุด คือ หากไม่มีการเติบโตของรายได้ค่าสัมปทานในช่วงปี 2559-2567 ผลประกอบการของ AOT น่าจะลดลง 4% โดยเฉลี่ยจากกรณีปกติ และราคาเป้าหมาย (คิดด้วยวิธี DCF) จะอยู่ที่ 314 บาท/หุ้น (จากราคาในกรณีปกติที่ 330 บาท/หุ้น) ดังนั้น เราคิดว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา (ลดลง 17% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา) นั้นมากเกินไป