ปัญหาเหยียดผิวชนวนเหตุยิงนักข่าวสหรัฐ

สถานีโทรทัศน์เอบีซี รายงานว่า ได้รับแถลงการณ์ความยาว 23 หน้า จากบุคคลที่ใช้ชื่อว่า นายไบรซ์ วิลเลียม กล่าวถึงเหตุการณ์ยิงนางสาวอลิสัน ปาร์คเกอร์ วัย 24 ปีนักข่าว และนายอดัม วอร์ด วัย 27 ปี ช่างภาพ ของทางสถานีโทรทัศน์ดับเบิลยูดีบีเจ ในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐ

แถลงการณ์อ้างว่า เหตุกราดยิงคนผิวสีในโบสถ์ ที่รัฐเซาท์แคโรไลนา  ทำให้ความโกรธแค้นของเขาระเบิดออกมา จากพฤติกรรมการเหยียดสีผิว ที่เขาชี้ว่า เกิดขึ้นทั้งในที่ทำงาน และทุกแห่งในสหรัฐ จนทำให้ตัดสินใจก่อเหตุครั้งนี้ขึ้นมา

การตรวจสอบพบว่า ชื่อไบรซ์ วิลเลียม เป็นชื่อที่นายเวสเตอร์ ฟลาเนแกน มือปืนที่ก่อเหตุยิงนักข่าว และช่างภาพทั้ง 2 คน ขณะกำลังสัมภาษณ์แหล่งข่าวออกอากาศสด ใช้ในวงการสื่อ 

ในแถลงการณ์ ที่เขาระบุว่าเป็นจดหมายลาตายถึงเพื่อนและครอบครัว ยังบอกเล่าถึงความคับแค้นใจที่ถูกเลือกปฏิบัติเรื่องสีผิว และถูกกลั่นแกล้งว่าเป็นเกย์  และบอกว่า เหตุกราดยิงในโบสถ์ที่เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา เป็นแรงผลักดันให้เขาก่อเหตุสังหารนักข่าวและช่างภาพ

 ทั้งนี้ นายฟลาเนแกน ถือเป็นผู้ประกาศข่าวผู้คร่ำหวอดในวงการ แต่ก็มีประวัติเกี่ยวกับความไม่พอใจอย่างมากในสถานที่ทำงาน โดยเขาถูกไล่ออกจากงานในปี 2556 และเขาเคยยื่นฟ้องสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ในรัฐฟลอริดาเมื่อปี 2543 โดยกล่าวหาว่า เลือกปฏิบัติเพราะสีผิวของเขา ทั้งยังเคยถูกผู้ควบคุมการผลิตของสถานีโทรทัศน์เรียกเขาว่าลิงด้วย 

ขณะที่ทางผู้บังคับบัญชากล่าวว่า นายฟลาเนแกนเป็นบุคคลที่ทำงานด้วยยาก เพราะมีอารมณ์ฉุนเฉียว และไม่มีความสุข ซึ่งตอนที่ถูกไล่ออกจากงานนั้น ต้องให้ตำรวจมาคุมตัวออกไปจากอาคารสถานีโทรทัศน์

ทางด้าน  นายจอช เอิร์นเนสต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงจากอาวุธปืน ที่กลายมาเป็นเรื่องที่ธรรมดามากเกินไปในสหรัฐ และว่าสภาคองเกรสควรที่จะผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวออกมา ที่จะส่งผลให้ความรุนแรงจากอาวุธปืนในสหรัฐลดลง

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารักโอบามา ของสหรัฐ เคยระบุว่า ความล้มเหลวในการเพิ่มความเข้มงวดในกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน ถือเป็นเรื่องที่สร้างความผิดหวังให้กับเขามากที่สุด ระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งนี้