กมธ.ร่างรธน.ทบทวนมาตราใกล้เสร็จแล้ว

กมธ.ร่างรธน.ทบทวนมาตราใกล้เสร็จแล้ว

กมธ.ร่างรธน.ทบทวนมาตราใกล้เสร็จแล้ว เหลือเฉพาะบทเฉพาะกาล 13 มาตรา ยกยอดพิจารณาจันทร์นี้ - เลื่อนวันให้สปช.-ครม.

นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงผลการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งพิจารณาทบทวนบทบัญญัติเป็นรายมาตราในรอบสุดท้าย เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้ใช้เวลาประชุมจนถึง เวลา 23.14 น. ซึ่งยังมีบทบัญญัติที่ค้างพิจารณาอีก คือ บทเฉพาะกาล ตั้งแต่มาตรา 273 – 285 ที่ถือมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเหมือนรัฐธรรมนูญซ้อนรัฐธรรมนูญ เป็นรัฐธรรมนูญในช่วง 1-5ปีแรกของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญซึ่งมีสารัตถะต่างจากบทบัญญัติปกติ ดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาสมบูรณ์กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จึงได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาในวันที่ 17 ส.ค.  

ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมาที่ประชุมกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีมติเลื่อนกำหนดการรับฟังผลการพิจารณาคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่ละกลุ่ม รวมถึงคณะรัฐมนตรีออกไป เป็นวันที่ 19 – 20 ส.ค. นี้จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 17 – 19 ส.ค. เนื่องจากในวันดังกล่าวนั้นจะมีการประชุมสปช.ซึ่งมีวาระพิจารณาที่สำคัญ อาทิ วาระปฏิรูป และ การพิจารณาเพื่ออภิปรายในกรณีที่มีสปช.เสนอญัตติเกี่ยวกับคำถามประชามติประกอบกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการไม่รบกวนสมาธิของสมาชิกสปช. และเปิดโอกาสให้ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสปช. จำนวน 21 คนได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวอย่างเต็มที่จึงได้เลื่อนการรับฟังดังกล่าวออกไป ส่วนการเตรียมประเด็นชี้แจงในฐานะที่ตนเป็นผู้ร่วมเสนอญัตติให้ทำประชามติให้มีการปฏิรูปประเทศอีก 2 ปี ก่อนจัดการเลือกตั้งหรือไม่ นั้น จะมีตนและผู้ที่ร่วมเสนอญัตติ เช่น นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา สปช. ร่วมอธิบายในเหตุผล 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับตารางเข้าฟังผลการพิจารณาคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญนั้น ยังคงเรียงลำดับตามลำดับของกลุ่มสปช. ที่ยื่นคำขอแก้ไข แต่ได้ปรับเวลา โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น. ให้เวลากลุ่มละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ขณะที่กติกาการรับฟังยังเหมือนเดิม คือเน้นการรับฟังว่า กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้รับข้อเสนอให้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นใดบ้าง และไม่รับในประเด็นใด ด้วยสาเหตุอะไร