กกท.จ่าย30ล้านค่าเหนื่อยเชิ้ตดำ

 ตลอดทั้งปี 30 ล้านบาท ขณะที่ “ขุนศึก” สระบุรี ยื่นหนังสือขอคณะกรรมการผู้ตัดสินไม่เอา “เปาเคิร์ก” อลงกรณ์ ฝีมือช่าง และทีมงานมาทำหน้าที่ในเกมที่ทีมลงสนาม พร้อมจี้ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ด้วย 

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาทวินัยและข้อประท้วง ฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 ประจำสัปดาห์

การประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง มีข้อสรุปดังนี้ ไทยพรีเมียร์ลีก ปรับเงิน สระบุรี 30,000 บาท กรณีโฆษกสนามใช้เครื่องขยายเสียงในทางไม่เหมาะสม ด้วยการส่งเสียงโห่ผู้ตัดสินหลังจบเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่เสมอการท่าเรือ 2-2 ส่วนดิวิชั่น 1 ปรับ วิน บุญห้อย ประธานสโมสรไทย ฮอนด้า 10,000 บาท กรณีออกนอกเขตเทคนิค และปรับไทย ฮอนด้า 50,000 บาท กรณีทำให้เกมหยุดการแข่งขัน 4 นาที เหตุเพราะจูเลียส โออิโบห์ นักเตะของทีมโดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามแต่ไม่ยอมออกจากสนาม, ปรับ เอกชัย นุ้ยขาว นักเตะสงขลา 30,000 บาท และแบน 1 นัด กรณียั่วยุกองเชียร์อันจะเป็นเหตุนำไปสู่ความรุนแรง (ถอดสื้อ-กางเกง เหลือแต่กางเกงชั้นในต่อหน้าแฟนบอลกระบี่)

นายดนัย มงคลศิริ คณะอนุกรรมการพิจารณา เปิดเผยว่า เกมระหว่าง บางกอกกล๊าส ที่ชนะ เชียงราย 3-2 ไม่มีรายงานจากผู้ควบคุมการแข่งขัน หรือคณะกรรมการผู้ตัดสินส่งเรื่องมายังคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท กรณีที่ สุเมธ สายแวว ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวถูกนักเตะทีมเยือนล้อมกรอบหลังเป่าให้จุดโทษแก่เจ้าบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทีมเชียงรายรายหนึ่งข่มขู่ด้วยการพูดว่า “อย่าไปเชียงรายนะ” ทำให้คณะอนุกรรมการไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้หรือลงโทษเชียงรายแต่อย่างใด

ส่วน นายวรพิชญ์ ลิขิตายน ผู้จัดการทีมสระบุรี ยื่นหนังสือถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการผู้ตัดสินให้พิจารณาการทำหน้าที่ของอลงกรณ์ ฝีมือช่าง ผู้ตัดสินชี้ขาด จอมทอง แวววับ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 และสราวุฒิ นาคฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ที่ทำหน้าที่ในเกมสระบุรี เปิดบ้านเสมอ การท่าเรือ 2-2 โดยเห็นว่าทำหน้าที่บกพร่องหลายจังหวะ

“สโมสรสระบุรีอยากให้มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินทั้ง 3 คนว่า มีการทำหน้าที่ถูกต้องตรงไปตรงมาหรือไม่ ถ้าการตรวจสอบพบว่าทำหน้าที่ผิดพลาดก็อยากให้มีบทลงโทษแก่ผู้ตัดสินทั้ง 3 คน ทั้งนี้สโมสรสระบุรีได้ขอให้ละเว้นผู้ตัดสินทั้ง 3 คนในการทำหน้าที่ตัดสินเกมที่สระบุรี ลงสนามนับจากสัปดาห์นี้เป็นต้นไป”

วันเดียวกัน นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรอง และกำหนดหลักเกณฑ์กองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท.หัวหมาก โดยที่ประชุมได้พิจารณาจะสนับสนุนเงินค่าจ้างผู้ตัดสินฟุตบอลทั้ง 3 ลีก คือ โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีกวัน, เอไอเอส ดิวิชั่น 2 ลีกภูมิภาค รวมเป็นเงิน 30 ล้านบาท เฉพาะฤดูกาล 2015 ที่กำลังแข่งขันอยู่นี้ แต่สำหรับฤดูกาลหน้า กกท.จะยังให้การสนับสนุนเงินค่าจ้างผู้ตัดสินต่อไป แต่จะลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ในทุกๆ ฤดูกาล คือ ฤดูกาล 2016 จะเหลือเพียง 15 ล้านบาท ฤดูกาล 2017 เหลือ 7.5 ล้านบาท เพื่อกองทุนจะได้นำเงินไปสนับสนุนกีฬาอาชีพอื่นๆ อีก 11 ชนิด