PSL - ถือ

PSL - ถือ

ผลประกอบการไตรมาส 2/58 ต่ำกว่าคาด; แนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 3/58

ต่ำกว่าที่คาด

PSL รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 2/58 ที่ 403 ล้านบาท โดยขาดทุนมากขึ้นทั้ง YoY และ QoQ หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32 ล้านบาท, ขาดทุนจากการขายเรือที่ 13 ล้านบาทและการกลับรายการของรายจ่ายหนี้สูญ 4 ล้านบาท ขาดทุนหลักไตรมาส 2/58 จะอยู่ที่ 362 ล้านบาท พลิกกลับจากกำไรหลักในไตรมาส 2/57 และขาดทุนมากขึ้น QoQ ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากอัตราค่าระวางที่ต่ำกว่าที่คาดและขาดทุนพิเศษ

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ผลประกอบการหลักที่อ่อนตัวลงมีัสาเหตุุมาจาก 1) อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยที่ต่ำลง, 2) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น, 3) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยต่ำลง 34% YoY และ 5% QoQ มาอยู่ที่ 5,757 เหรียญ/วัน/ลำ สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 9.0% จาก 7.0% ในไตรมาส 2/57 (แต่ทรงตัว QoQ) นอกจากนี้ ดอกเบี้ยจ่ายยังเพิ่มขึ้น 28% YoY (แต่ทรงตัว QoQ) เป็น 135 ล้านบาท จากยอดเงินกู้คงค้างที่สูงขึ้น ทั้งนี้จำนวนเรือให้บริการสูงขึ้นเป็น 45 ลำในไตรมาส 2/58 จาก 40 ลำในไตรมาส 2/57 (แต่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง QoQ)

แนวโน้ม

ดัชนี BDI เฉลี่ย ในไตรมาส 3/58 ถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้น 54% QoQ มาอยู่ที่ 975 จุด หนุนจากการเพิ่มขึ้นของดัชนี Capesize 111% จากการกลับมานำเข้าแร่เหล็กจากประเทสจีน ตามด้วยการเพิ่มขึ้น 28% ของดัชนี Supramax และการเพิ่มขึ้น 18% ของดัชนี Handysize ทั้งนี้ อัตราค่าระวางเรือคาดปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 จากฤดูกาลซื้อขายพืชผลทางการเกษตรของภูมิภาคอเมริกาเหนือ ดังนั้นเราคาดอัตราค่าระวางเรือและผลการดำเนินงานหลักน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 3/58 (แต่ยังคงติดลบ) อย่างไรก็ตามอัตราค่าระวางเรือไตรมาส 3/58 คาดลดลง YoY จากอุปทานส่วนเกินในตลาดเรือเทกอง ดังนั้นเราจึงคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 จะอ่อนตัว YoY

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

แนวโน้มที่ค่อนข้างเปราะบางของตลาดเรือเทกอง ส่งผลให้เราปรับลดสมมติฐานอัตราค่าระวางเรือลง 5% เป็น 6,517 เหรียญ/วัน/ลำ และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลงเป็น -5% จาก 7% สำหรับปี 2558 และปรับลดอัตราค่าระวางเรือลง 1% เป็น 7,821 เหรียญ/วัน/ลำและอัตรากำไรขั้นต้นเหลือ 12% (จาก 28%) ในปี 2559 ดังนั้นเราจึงคาดว่าบริษัทจะขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1,110 ล้านบาท (จาก 604 ล้านบาท)


และปรับประมาณการปี 2559 เป็นขาดทุนสุทธิที่ 432 ล้านบาท เรายังปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 เป็น 10 บาท จาก 10.30 บาท อ้างอิงจากค่า PBV ที่ 1.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.3 เท่า อยู่ 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งเป็นมูลค่าหุ้นที่ซื้อขายในช่วงอัตราค่าระวางเรือต่ำ)

คำแนะนำ

ในมุมมองของเรา ผลประกอบการที่ค่อนข้างอ่อนตัวในปี 2558 จากอุปสงค์ของโลกที่อ่อนตัวลง จะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไป อย่างไรก็ตามเราคิดว่าราคาหุ้นในปัจจุบันซึ่งซื้อขายกันอยู่ที่ PBV ณ สิ้นปี 2558 ที่ 0.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 1.1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ได้สะท้อนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว