ลีสซิ่งกสิกรฯหั่นเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือโต1.5%

ลีสซิ่งกสิกรฯหั่นเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือโต1.5%

"ลีสซิ่งกสิกรไทย" ปรับลดเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือโต 1.5% จาก 1.8-2% หลังเศรษฐกิจชะลอ-ยอดขายรถใหม่ตก พร้อมรักษาระดับ NPL ไม่ให้เกิน 1.5%

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ลงเหลือ 1.5% จากเดิม 1.8-2% เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว และ ยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลง โดยภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังซบเซาต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าปีนี้ภาพรวมของตลาดรถยนต์ยังคงหดตัว 12-13% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมียอดขายรถยนต์ใหม่ที่ 780,000 คัน ลดลงจากปีก่อนที่มียอดขาย 861,000 คัน

เนื่องจากรายได้ประชาชนลดลง โดยเฉพาะภาคการเกษตรและการส่งออกทำให้มีความกังวลในการใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูงถึง 90% จึงชะลอการซื้อรถยนต์ และ คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์จะซบเซาต่อเนื่องจนถึงปี 60 จึงจะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะกลับมาฟื้นตัว และ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อกลับมาซื้อสินค้าคงทน เช่น รถยนต์

นายสุรัตน์ กล่าวว่า บริษัทลิสซิ่งกสิกรไทย ได้มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยเน้นปล่อยสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ลูกค้าภาคธุรกิจ ( ฟีต) และ ตลาดรถบรรทุก โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุกภาคขนส่งระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำโขง( CLMV) เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของสินเชื่อให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.29% โดยสิ้นปีคาดว่าจะรักษาไม่ให้เกิน 1.5% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

"กำไรปีนี้ 600 ล้านบาทน่าจะทำได้ตามเป้า เพราะ 6 เดือนทำไปแล้ว 293 ล้านบาท อีกอย่างความต้องการรถบรรทุกยังมีอยู่ทำให้เราเชื่อมั่นว่ากำไรปีนี้จะไม่พลาดเป้า"นายสุรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย สามารถปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ใหม่ได้ 30,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 3.76% แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่เช่าซื้อและลีสซิ่ง 15,273 ล้านบาท ลดลง 7.44% และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 15,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.20% โดยเฉพาะในไตรมาสสอง สินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตถึง 28.64% สำหรับยอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) มียอดรวม 88,903 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 0.96% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.29% ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 293 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สำหรับสินเชื่อเพื่อการซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ทั้งระบบมีจำนวน 8.52 แสนล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 57 ประมาณ 7 พันล้านบาท หรือลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนพ.ค.57