รถตู้ขนเงินแบงก์45ล้าน เสยท้ายรถพ่วง

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ร.ต,ท.นิยมรุ่ง มุงเมือง พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถตู้ขนเงินชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ที่บริเวณจุดกลับรถหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากิ่งแก้ว ใกล้ปากซอยกิ่งแก้ว 30 ต,ราชาเทวะ อ,บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุบริเวณจุดกลับรถฝั่งมุ่งหน้าลาดกระบัง ที่บริเวณเกาะกลางถนน พบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์ ซึ่งเป็นรถขนเงินของบริษัทแห่งหนึ่ง ชนติดอยู่กับเสาไฟส่องสว่างกลางถนน บริเวณด้านหน้าข้างซ้ายของรถตู้พังยับเยิน ภายในรถพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่วนคนขับรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยนำส่งรักษาที่โรงพยาบาล หลังเกิดเหตุบริษัทรถขนเงินที่เกิดเหตุได้นำรถมาขนถ่ายเงินซึ่งอยู่ในตู้เซฟท้ายรถตู้ที่เกิดเหตุ จำนวน 9 ถุง ถุงละ 5 ล้านบาทรวม 45 ล้านบาท ใกล้กันได้พบรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อฮีโน่ สีน้ำเงิน  จอดอยู่ชิดขอบทาง ที่บริเวณด้านท้ายหางลาก พบว่าถูกชนจนกล่องไฟเลี้ยวและไฟท้ายข้างซ้ายแตกและบิดเบี้ยว พร้อมทั้งลอยเฉี่ยวชน 

จากการสอบปากคำคนขับรถตู้ขนเงิน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจาก อ.บางพลี โดยใช้ถนนกิ่งแก้ว มุ่งหน้าลาดกระบังมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถบรรทุกพ่วงกำลังเลี้ยวกลับรถอย่างช้าๆ ตัดหน้ารถตนโดยด้านหัวของรถพ่วงดังกล่าวอยู่ที่ฝั่งซ้าย ส่วนห่างของรถขวางถนนอยู่ระหว่างเลนกลางและเลนขวาครึ่งเลน ตนได้พยายามเหยียบเบรก แต่เบรกไม่อยู่จึงตัดสินใจหักพวงมาลัยออกทางด้านขวา จึงทำให้ด้านหน้าข้างซ้ายของรถตนเฉียวชนเข้ากับท้ายข้างซ้ายของท้ายพ่วงคันดังกล่าวจนพังยับเยิน ก่อนที่จะเสียหลักพุ่งขึ้นไปบนเกาะกลางถนนชนเข้ากันเสาไฟส่องสว่างกลางถนนเข้าอย่างแรง  ทำให้คนที่นั่งที่เบาะข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีกคนที่นั่งมาในตู้เซฟด้านท้ายรถได้รับบาดเจ็บที่เบ้าตา 

ด้านคนขับรถบรรทุกพ่วง ให้การว่า ตนได้ขับรถพ่วงคันดังกล่าวบรรทุกหินมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี กำลังจะนำหินไปลงที่ซอยกิ่งแก้ว 31 พอมาถึงจุดเกิดเหตุกำลังเลี้ยวกลับรถ ซึ่งขณะนั้นรถที่วิ่งมาเลนขวาได้จอดแล้ว ตนจึงเลี้ยวกลับรถออกจนขวางเต็มถนนแล้ว อยู่ๆ รถตู้คันดังกล่าวที่ขับมาด้วยความเร็วได้พุ่งเข้ามาเฉี่ยวชนเข้าที่ด้านท้ายรถของตนเข้าอย่างแรง ก่อนจะพุ่งขึ้นไปบนเกาะกลางถนนชนกับเสาไฟฟ้ากลางถนน ดังกล่าว 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถทั้งสองคันมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพักเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป