ยูเอ็นห่วงเมียนมาร์น้ำท่วมหนัก-เอเชียเผชิญฝนตกหนัก

ยูเอ็นห่วงเมียนมาร์น้ำท่วมหนัก-เอเชียเผชิญฝนตกหนัก

ยูเอ็น เตือนเมียนมาร์เจอน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มระดับรุนแรง ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 47 ราย

องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เตือนเมียนมาร์เจอน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มระดับรุนแรง ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 47 ราย ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 150,000 คน และนอกจากเมียนมาร์แล้ว ฤดูมรสุมยังเล่นงานอีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้

ทั้งนี้ รัฐบาลเมียนมาร์ ประกาศให้ 4 พื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตกเป็นเขตภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติรุนแรงที่สุดคือรัฐชินและยะไข่ทางตะวันตก ขณะที่ความพยายามในการกู้ภัยเจอกับอุปสรรคมากมาย จากฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลหลายแห่ง

ด้านสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรม หรือโอซีเอชเอ แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงบรรเทาทุกข์และย้ายถิ่นฐานของเมียนมาร์ว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในขณะนี้ 156,000 คน แต่มีแนวโน้มที่ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นสูงมาก เนื่องจากยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ทีมประเมินสถานการณ์ยังเข้าไม่ถึง และโอซีเอชเอ ยังย้ำว่า ยอดผู้เสียชีวิตของทางการที่ 47 ราย อาจเป็นตัวเลขประเมินที่ต่ำเกินไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นอกจากเมียนมาร์แล้ว ฤดูมรสุมยังส่งผลกระทบต่ออีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ เริ่มจากอินเดีย โดยเจ้าหน้าที่ในรัฐมณีปุระ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียคาดว่า มีประชาชนราว 20 คน เสียชีวิตจากเหตุภูเขาถล่มทับหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อยู่ติดกับชายแดนเมียนมาร์ หลังจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของอินเดีย โดยเฉพาะที่รัฐคุชราตทางตะวันตกที่มีผู้เสียชีวิตถึง 53 ราย

ส่วนที่เวียดนาม หน่วยกู้ภัยเร่งให้ความช่วยเหลือเหยื่อโคลนถล่ม ที่ปนเปื้อนสารพิษจากเหตุน้ำท่วมเหมืองถ่านหินในจังหวัดกว๋างนิง ทางเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอ่าวฮาลอง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย