'ดอน'วอนอย่าใช้อารมณ์บอยคอตสินค้าสหรัฐ

'ดอน'วอนอย่าใช้อารมณ์บอยคอตสินค้าสหรัฐ

"ดอน" ชี้ "กษิต” วิจารณ์แก้ค้ามนุษย์ถือเป็นข้อห่วงใย ยันรัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว พร้อมวอนอย่าใช้อารมณ์สร้างกระแสบอยคอตสินค้าสหรัฐ

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์และกฎหมายเรื่องการค้ามนุษย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ วิจารณ์การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของรัฐบาลว่ายังไม่มีความจริงจังมากพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ว่า ถือเป็นข้อห่วงใยที่มีอยู่เดิมแล้ว และรัฐบาลจัดให้ปัญหานี้อยู่ในแผนการปราบปรามการค้ามนุษย์ ตามหลัก 5 พีที่ว่าด้วยการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ แม้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ให้ประเทศไทยอยู่ในบัญชีกลุ่ม (เทียร์) 3 แต่รัฐบาลไม่รู้สึกท้อถอย และจะเดินหน้าแก้ปัญหาตามแนวทางที่วางไว้ต่อไป

“สิ่งใดที่ดีอยู่แล้วก็จะทำให้ดียิ่งขึ้นไป แต่จะเพิ่มความจริงจังมากขึ้น ให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพมากขึ้น จะเพิ่มการรับรู้ในภาคประชาชน สังคม และองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรระหว่างประเทศ อย่างสหรัฐฯซึ่งเราจะรายงานผลการดำเนินการของไทยให้เขาทราบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพยายามป้องกันเหตุแทรกซ้อนทั้งในและนอกประเทศที่จะมีผลต่อการจัดอันดับในรายงานดังกล่าว”นายดอน กล่าว

เมื่อถามว่าการจัดอันดับให้ไทยอยู่เทียร์ 3 มีปัจจัยจากเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า มีส่วนเช่นกัน แต่ถือเป็นเรื่องทางเทคนิค แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรเราก็ต้องยอมรับ และเดินหน้าแก้ไขปัญหา โดยตนยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลแก้ปัญหานี้มาถูกทางแล้ว และมั่นใจว่าไทยจะได้รับการเลื่อนอันดับให้อยู่ในเทียร์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนในปีหน้า เมื่อถามว่าจะมีการนำผู้เชี่ยวชาญหรือนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถ มาเป็นคณะทำงานแก้ปัญหาด้วยหรือไม่นั้น รมช.ต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เชิญทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ เอ็นจีโอ เข้ามาร่วมประชุมเป็นประจำอยู่แล้ว แต่จะเชิญมารับตำแหน่งในคณะอนุกรรมการหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือกันต่อไป

ต่อข้อถามว่าบางฝ่ายอาจมีการรณรงค์ไม่ใช้สินค้าจากสหรัฐฯ นายดอน กล่าวว่า ขอให้ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์ เพราะเรื่องนี้เป็นไปตามหลักสากลที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกำหนดกฎกติกาไว้เพื่อประเมินประเทศต่างๆไว้แล้ว