โปโลน้ำหญิงคึก วัยรุ่นแห่ฝึกอื้อ หวังติดทีมชาติ

โปโลน้ำหญิงคึก วัยรุ่นแห่ฝึกอื้อ หวังติดทีมชาติ

“โปโลน้ำหญิง” กระแสแรงต่อเนื่อง หลังพลิกประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28

 “โค้ชตึก” เผย มีสาววัยใสแห่สมัครเข้าเล่นเพียบ ทำให้สมาคมว่ายน้ำได้นักกีฬาหน้าใหม่มาเสริมทัพกว่าเท่าตัว 

“โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากทีมโปโลน้ำหญิงของไทยคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า กีฬาโปโลน้ำในเวลานี้ได้รับความสนใจจากเด็กนักเรียนจำนวนมาก โดยเฉพาะนักกีฬาหญิง จากเดิมที่มีนักกีฬาหญิงเล่นกันประมาณ 30-40 คน แต่ตอนนี้สมาคมได้นักกีฬาเข้ามาเพิ่มถึงเท่าตัว หลังจาก ดานิเอเล เฟอร์รี โค้ชชาวอิตาเลียน ได้เดินทางไปให้ความรู้แก่นักกีฬาตามโรงเรียนต่างๆ

“การเดินสายไปให้ความรู้และอบรมแก่เด็กนักเรียนที่โรงเรียนต่างๆ นับว่าประสบความสำเร็จมาก นักเรียนให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม และเวลานี้เราได้ตัวนักกีฬามาเตรียมทีมระยะยาวเพิ่มขึ้นเกือบ 30 คน ทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น และน่าจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต”

นายธนาวิชญ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภารกิจของทีมโปโลน้ำสาวไทยในเวลาอันใกล้นี้คือ การเข้าร่วมการแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2015 “เอเชี่ยนเอจกรุ๊ป” ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม โดยกีฬาโปโลน้ำและกระโดดน้ำแข่งขันที่สระมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ส่วนกีฬาว่ายน้ำและระบำใต้น้ำแข่งขันที่สระมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) บางนา โดยในระดับเอเชีย ยอมรับว่านักโปโลน้ำหญิงของไทยยังเป็นรองชาติชั้นนำในเอเชียพอสมควร อีกทั้งระยะเวลาในการเตรียมทีมค่อนข้างน้อยจึงไม่คาดหวังถึงการคว้าเหรียญรางวัล

เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำกล่าวอีกว่า ตอนนี้ทีมโปโลน้ำหญิงฝึกซ้อมเพื่อเตรียมทีมในระยะยาวแล้ว โดยมีเป้าหมายในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย ปี 2016 และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ปี 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากเสร็จศึกเอเชี่ยนเอจกรุ๊ป ก็จะส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันรายการใดรายการหนึ่งระหว่างการแข่งขันที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนธันวาคมนี้ กับรายการ “เจแปน โอเพ่น” ในเดือนมกราคมปีหน้า ที่ประเทศญี่ปุ่น

“สำหรับเป้าหมายตอนนี้คือป้องกันแชมป์ซีเกมส์ให้ได้ก่อน ส่วนในระดับเอเชี่ยนเกมส์ยังไม่ได้หวังไกลถึงเหรียญรางวัล ตั้งเป้าไว้ที่ 1 ใน 6 ของเอเชียก่อน เพราะทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อุซเบกิสถาน ล้วนแต่แข็งแกร่งมาก”