คดีคลองจั่นส่อยืดเยื้อ หลังผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์อีก60ราย

ล่าสุดสหกรณ์แตกเป็น 3 กลุ่ม ตั้งแง่ตรวจสอบค่าจ้างทำแผนฟื้นฟูฯนับ 10 ล้านบาท ขู่โหวตค้านแผนฟื้นฟูฯปล่อยสหกรณ์ล้มละลาย    

พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ). เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดียักยอก ฉ้อโกง และฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ว่า คณะพนักงานสอบสวนกำหนดที่จะสรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาภายในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา. แต่ปรากฎว่ามีกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ให้ดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มอีกเกือบ 60 ราย โดยในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่บัญชีหรือเจ้าหน้าที่การเงินซึ่งน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดนั้นดีเอสไอได้สอบปากคำไว้แล้ว แต่มีการกล่าวโทษเพิ่มเติมไปถึงอดีตกรรมการและผู้จัดการสาขาของสหกรณ์ในต่างจังหวัด ทำให้ต้องสอบสวนผู้เกี่ยวข้องที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมอีกกว่า 40 ปาก คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะสามารถสรุปคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน ก่อนมีมติสรุปสำนวนคดีว่าจะสั่งฟ้องและไม่ฟ้องบุคคลใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ในวันที่. 10 ส.ค.นี้. คณะกรรมการบริหารสหกรณ์คลองจั่นฯ ชุดที่ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งให้ร่วมจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการจะเข้าพบนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ดีเอสไอยึดอายัดจากกลุ่มของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร. อดีตประธานสหกรณ์

แหล่งข่าวจากสหกรณ์คลองจั่นฯเปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มผู้เสียหายสหกรณ์คลองจั่นๆฯได้แตกออกเป็น 3 กลุ่มหลัก โดยแต่ละกลุ่มเคลื่อนไหวอิสระตรวจสอบและจับผิดกันเอง. มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกันไปมา นอกจากนี้สมาชิกยังเคลือบแคลงสงสัยการบริหารงานของกรรมการสหกรณ์ชุดใหม่ โดยเฉพาะรายจ่ายหลายสิบล้านบาทที่ใช้ในการว่าจ้างผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการสหกรณ์คลองจั่นฯ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดูงานสหกรณ์ดีเด่น การประชาสัมพันธ์ ทำให้สมาชิกบางรายเริ่มระดมความเห็นเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 5,000-7,000 ล้านบาทเข้ามาช่วยเหลือสมาชิกรายย่อย คัดค้านการทำแผนฟื้นฟูกิจการโดยมองว่าผู้ได้ประโยชน์คือสหกรณ์ออมทรัพย์ 74 แห่งที่เป็นเจ้าหนี้สหกรณ์คลองจั่นฯ โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีอาคารยูทาวเวอร์เป็นทรัพย์จำนอง จะได้รับการชำระหนี้ 100% ขณะที่สมาชิกที่เป็นเจ้าของเงินฝากแทบไม่ได้รับการเยียวยา

แหล่งข่าวจากสหกรณ์คลองจั่น เปิดเผยด้วยว่า สมาชิกบางกลุ่มเริ่มสร้างกระแสเรียกร้องให้คณะกรรมการชุดใหม่เปิดเผยรายละเอียดในแผนฟื้นฟูกิจการให้ชัดเจนว่า สมาชิกแต่ละรายจะได้รับการชำระหนี้อย่างไร รวมถึงการบริการจัดการทรัพย์สินนอกบัญชีสหกรณ์ โดยเฉพาะรายได้หลักจากการขายโครงการบ้านเอื้ออาทร 600 สัญญา และแฟลตคลองจั่นอีกกว่า 800 ยูนิต ทั้งนี้หากไม่มีความชัดเจน. อาจจะมีการลงมติให้ล้มแผนฟื้นฟูกิจการปล่อยให้สกรณ์คลองจั่นฯล้มละลาย เพื่อให้สมาชิกและเจ้าหนี้จะได้รับการเฉลี่ยทรัพย์คืนเท่า ๆ กัน