'ประยุทธ์'เดินหน้ากองทุนการออมฯดูแลประชาชน

'ประยุทธ์'เดินหน้ากองทุนการออมฯดูแลประชาชน

“พล.อ.ประยุทธ์” เดินหน้า "กองทุนการออมแห่งชาติ" ดูแลคนทำอาชีพอิสระ-วัยเกษียณ พร้อมแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” กล่าวถึงการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ว่า รัฐบาลได้เดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อดูแลประชาชนอายุระหว่าง 15-60 ปี ซึ่งประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐหรือกองทุนเอกชนที่มีนายจ้างจ่ายสมทบ เช่น เกษตรกร ค้าขาย รับจ้างทั่วไป คนขับรถแท็กซี่ เป็นต้น รวมทั้งผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณอายุ แต่ยังไม่มีระบบใดๆรองรับ ทั้งนี้รัฐบาลหวังว่ากองทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างนิสัยการออมทุกช่วงวัย โดยรัฐจะช่วยจ่ายเงินสมทบให้ส่วนหนึ่ง และเมื่อผู้ออมมีอายุครบ 60 ปี ก็จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีพ ถือเป็นการสร้างหลักประกันให้กับชีวิตในยามที่ไม่มีรายได้ประจำ เป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ว่า รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ในรูปแบบการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ ทั้งในด้านกฎหมาย การไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ และการปลดเปลื้องหนี้สิน เพื่อไม่ให้เกษตรกรต้องสูญเสียสิทธิหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง โดยมีศูนย์ประสานการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลัก ส่วนกลุ่มลูกหนี้นอกระบบที่จำเป็นเร่งด่วนได้ ให้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการให้การช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย และกลุ่มลูกหนี้นอกระบบที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน ก็ได้ให้กองทุนหมุนเวียน กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบดำเนินการช่วยเหลือ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะที่กลุ่มลูกหนี้ในระบบนั้น มอบหมายให้กระทรวงการคลังช่วยเหลือลูกหนี้ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละพื้นที่ได้มีการสำรวจไว้แล้วและคัดกรองหนี้สินดังกล่าว พร้อมส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป รวมทั้งให้จัดทำแผนปฏิบัติการเจรจาหนี้ให้ครบทุกราย ภายในวันที่ 31 ส.ค.2558 ตามลําดับความจำเป็นเร่งด่วนของหนี้ โดยให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายมากที่สุด