พาณิชย์เชื่อสหรัฐจะไม่แบนสินค้าไทย

พาณิชย์เชื่อสหรัฐจะไม่แบนสินค้าไทย

"กระทรวงพาณิชย์" เชื่อสหรัฐจะไม่แบนสินค้าไทย หลังอยู่ระดับเทียร์ 3 เช่นเดิม ย้ำสหรัฐน่าจะเข้าใจความตั้งใจ เชื่อปีหน้าอันดับน่าจะดีขึ้น

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ไทยถูกคงสถานะการค้ามนุษย์ไว้ที่อันดับเดิม หรือเทียร์ 3 ว่า ไม่อยากให้มองในแง่ร้าย เพราะที่ผ่านมาภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวของของไทยพยายามแก้ไขปัญหาก่อนหน้าที่จะมีการประกาศอันดับหลายเดือน ซึ่งไทยควรใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสที่ต้องเร่งผลักดันและแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน แม้ไทยจะถูกคงสถานะอยู่ที่เทียร์ 3 เช่นเดิมแต่เชื่อว่าสหรัฐจะไม่แบนสินค้าไทย เพราะสหรัฐก็ยอมรับว่าไทยมีการดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่กรณีการแก้ปัญหาการใช้แรงงานประมงผิดกฎหมาย หรือ IUUFishing รัฐบาลได้มีการปรับปรุงหลายหน่วยงานที่แต่งตั้งให้มากำกับดูแล ตลอดจนการแก้ไขกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ในภาพรวม ซึ่งต้องยอมรับว่าอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายใน 3-5 เดือน เพราะเป็นปัญหาที่สะสมมานานหลายปี และยังต้องพิจารณาผลกระทบที่มีต่อประมงพื้นบ้านด้วย ซึ่งเห็นว่าปัญหา IUU Fishing จะมีผลกระทบไม่มากและตอนนี้ไทยยังมีเวลาแก้ไขปัญหา โดยยืนยันว่าไทยมีความจริงใจในการแก้ปัญหา

นางอภิรดี กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งการแก้ไขกฎหมายฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 4 สิงหาคมนี้ ใน พ.ร.บ.ใหม่ 8 ข้อ ประกอบด้วย ห้ามลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ชื่อผู้สร้างสรร ชื่อนักแสดงบุคคลจะมีความผิดฐานละเมิดการบริหารสิทธิ์ ผู้ที่มีสิทธิ์ลิขสิทธิ์ของตนในการคุ้มครองเทคโนโลยีของเจ้าของลิขสิทธิ์ในกรณีมีพาสเวิร์ส และมีการเผยแพร่ในระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงโดยเจ้าของสิทธิ์ไม่ยินยอมจะถือเป็นการละเมิดทางเทคโนโลยี กรณีการเรียกดูภาพยนตร์ หรือฟังเพลงผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์และมีการฟังซ้ำทั้งงานเพลงและภาพยนตร์ในหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ให้ถือว่าเป็นการทำซ้ำชั่วคราวไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ให้ถือเป็นข้อยกเว้นในการละเมิดลิขสิทธิ์ชั่วคราว

นอกจากนี้ กรณีผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต เช่น เจ้าของเว็บไซต์โดยเฉพาะยูทูบ ไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเจ้าของสิทธิ์สามารถร้องขอศาลให้ผู้ให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตสามารถนำไฟล์ละเมิดออกจากเว็บไซต์ เพิ่มข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ ในการจำหน่ายต้นฉบับ หรือสำเนางานที่มีลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นของมือ 2 เช่น ภาพเขียน หรือหนังสือ และยังเพิ่มสิทธิ์ทางศีลธรรมของนักแสดงให้เท่าเทียมกับผู้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์ ซึ่งนักแสดงสามารถระบุชื่อตนเองในงานแสดงที่ตนแสดงได้เพิ่มบทลงโทษ โดยศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิ์ของนักแสดง จ่ายค่าเสียหายเพิ่ม ไม่เกิน 2 เท่า ของค่าเสียหาย กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งริบ หรือทำลายสิ่งที่ใช้ในการละเมิดลิขสิทธิ์ และสิ่งที่ได้ทำขึ้นมา หรือนำเข้ามาในประเทศ ซึ่งเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิ์ของนักแสดง