Market Focus (29 ก.ค.58)

Market Focus (29 ก.ค.58)

SET มีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้นไปทดสอบ 1420 จุด

SET View

- แนวโน้ม แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยกดดัน SET โดยวานนี้ ต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ 1.8 พันล้านบาท ส่งผลให้ต่างชาติ ขายสุทธิตลอด 7 วันทำการหลังสุดรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว

วันนี้ คาดได้เห็นการฟื้นตัวระยะสั้นของ SET หลังจากวานนี้ ทดสอบแนวรับบริเวณ 1400 จุด แล้วเด้งขึ้นมาได้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นน่าจะช่วยเสริม sentiment เชิงบวกให้กับตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ เช่นเดียวกับ ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่เริ่มฟื้นตัว วานนี้ เพิ่มชึ้น 1.2% มาปิดที่ 47.98 เหรียญฯ/บาร์เรล เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ประเมินกรอบ SET วันนี้ 1400-1420 จุด

เรามองว่า การฟื้นตัวของราคาน้ำมันเป็นผลมาจาก CNN จัดทำโพลล์สำรวจความคิดเห็นประชาชนสหรัฐฯประเด็นการพิจารณาข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน พบว่า ส่วนใหญ่ คือ 52% อยากให้สภาคองเกรสสหรัฐฯปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว สะท้อนว่า ดีลระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน อาจไม่ได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสง่ายดายเท่าใดนัก ทำให้การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมัน ต้องใช้เวลาสักระยะ

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดประมาณการ GDP growth ของไทยปีนี้ลงจาก 3.7% เหลือ 3% โดยหลักเป็นการปรับลดคาดการณ์ยอดส่งออกจากเดิมคาดโต 0.2% เป็นหดตัว 4% เพื่อให้สะท้อนยอดส่งออกจริงใน 1H58 ที่ยังติดลบอยู่ 5% YoY เราคาดว่า จะเห็นแนวโน้มการปรับลดประมาณการ GDP ไทยลงอย่างต่อเนื่องจากหลายสำนัก โดยเฉพาะฝ่ายวิจัยบางสำนักที่ยังคงประเมินไว้ในระดับสูงเกิน 3% อย่างมีนัย นับเป็นกระแสเชิงลบที่กดดัน SET ในระยะกลาง

- กลยุทธ์การลงทุน : 1) นักเก็งกำไรระยะสั้น เก็งกำไรภายในวัน ลุ้นการฟื้นตัวทดสอบแนวต้าน 1420 จุด 2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ยังแนะนำให้รอซื้อบริเวณ 1360-1375 จุด SET ยังไม่พ้นภาวะผันผวนขาลง

   Top Daily Pick : BCP (มูลค่าเหมาะสม 38 บาท) เก็งกำไรตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน, ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาจนมี Upside ราว 15%, คาดกำไร 2Q58 เติบโตเด่นสุดในกลุ่มโรงกลั่น (+143%QoQ, +100%YoY) และ LPN (มูลค่าเหมาะสม 23.20 บาท) ปัจจุบัน P/E ต่ำเพียง 9.2 เท่า ปันผลสูง 5.5%, ได้รับผลบวกเชิง sentiment หาก กนง. ลดดอกเบี้ย, คาดกำไรสุทธิ 2Q58 เติบโตโดดเด่น 170% QoQ, 115% YoY

   Technical Pick : AAV AJP PTTGC PTTEP RCL (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)

   Theme Plays : การประมูล 4G เริ่มนับหนึ่งในเดือนนี้ (ADVANC, INTUCH)/ หุ้นอสังหาฯที่ซื้อขายด้วย P/E ratio ค่อนข้างต่ำ (SPALI, QH) / หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE, SVI, SAPPE)/ หุ้นที่คาดว่า งบ 2Q58 เติบโตโดดเด่น (CK, LPN, SPALI, PLANB, SAPPE, SYNTEC)

Strategy Talk

หุ้นมีประเด็น

กลุ่มอาหาร ประเด็นกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2558 จัดอันดับประเทศไทยให้อยู่ในระดับ Tier 3 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากรายงานในปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่า ไทยขาดความพยายามและความก้าวหน้าในการดำเนินนโยบายต่อต้านการค้ามนุษย์

ฝ่ายวิจัยภัทร ประเมินผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอาหารมีจำกัด เพราะ 1) แม้มีลูกค้าจากสหรัฐฯและยุโรป หยุดการซื้อสินค้าอาหารทะเลจากไทย แต่ถือเป็นจำนวนน้อยมาก และลูกค้าส่วนใหญ่ ยังคงซื้อขายกับบริษัทในไทยอยู่ 2) บริษัทอย่าง TUF และ CPF เชิญลูกค้าจากสหรัฐฯและยุโรป เข้ามาตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจ เพื่อแสดงให้เห็นว่า บริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์แต่อย่างใด นอกจากนี้ ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มมีประเด็นการค้ามนุษย์ในไทยช่วง มิ.ย.57 ผลประกอบการ TUF และ CPF ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

SAT (มูลค่าเหมาะสม 19.50 บาท) Preview ผลประกอบการ 2Q58 และปรับลดประมาณการกำไร-มูลค่าเหมาะสม

• คาดกำไรสุทธิ 2Q58 เท่ากับ 67 ล้านบาท หดตัวแรง 66% QoQ และ 48% YoY ปัจจัยหลักมาจากการเปลี่ยนโมเดลรถกระบะของลูกค้ารายใหญ่ ที่มีสัดส่วนราว 26% ของรายได้รวมของ SAT กดดันอัตราการใช้กำลังการผลิต ลดลงเหลือ 53% จาก 69% ใน 1Q58 และอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 15.5% เหลือ 12.5% ปัจจัยลบเพิ่มเติมที่ทำให้กำไรอ่อนตัวจากไตรมาสก่อน คือ ปัจจัยฤดูกาล เพราะไตรมาส 2 มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน

• จากประสิทธิภาพการทำกำไรใน 2Q58 ที่แย่กว่าที่เราคาดมากและมีผลกระทบเชิงลบจากออร์เดอร์ที่เลื่อนการรับรู้รายได้ (สินค้าเพลาข้าง สำหรับรถบรรทุก เดิมคาดเริ่มผลิตใน 3Q58 เลื่อนไปเป็นต้นปีหน้า) ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง 12% เหลือ 691 ล้านบาท เติบโตเพียง 6% YoY และมูลค่าเหมาะสมลดลง 11% จาก 22 บาทเหลือ 19.50 บาท

• คงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวอย่างมีนัยตั้งแต่ 2H58 และกลับมาเติบโตปีหน้าแบบเร่งตัวราว 13% ราคาหุ้น SAT ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E แค่ 10 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 13.9 เท่า และคาดผลตอบแทนเงินปันผลในระดับ 4%