HMPRO - ซื้อ

HMPRO - ซื้อ

ผลประกอบการไตรมาส 2/58 เป็นไปตามคาด

ผลประกอบการเป็นไปตามคาด

กำไรสุทธิ HMPRO ไตรมาส 2/58 อยู่ที่ 820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% YoY และ 12% QoQ สอดคล้องกับประมาณการของเราและของตลาด

ประเด็นหลักจากผลประกอบการ

ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 14% YoY เป็น 13.6 พันล้านบาท โดยยอดขายสาขาโฮมโปรในประเทศไทยเติบโตขึ้น 8% YoY เป็น 12.2 พันล้านบาท ในขณะที่ยอดขายสาขาเดิมลดลง 0.3% จากการใช้จ่ายที่ลดลงของผู้บริโภคและการกินกันเองจากการเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนยอดขายสาขาเดิมในกรุงเทพฯยังขยายตัวได้มากกว่า 5% ในขณะที่สาขาในต่างจังหวัดยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่องราว 5-6% ส่วนใหญ่มาจากยอดขายที่อ่อนตัวลงในสาขาภาคใต้ซึ่งมีผลกระทบมาจากราคายางที่ปรับตัวลง

ยอดขายของร้านเมก้าโฮมปรับตัวขึ้น 12% YoY เป็น 839 ล้านบาท โดยมีปัจจัยจากยอดขายสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผลกระทบจากการขยายสาขาใหม่มีน้อยมากเนื่องจากไม่มีสาขาเปิดใหม่ในช่วงไตรมาส 3/57 ถึงไตรมาส 1/58 ส่วนสาขาโฮมโปรในประเทศมาเลเซียมีรายได้ 105 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ลดลง 14% QoQ แม้จะมีผลกระทบจากการใช้ภาษีสินค้าและบริการในประเทศมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25.6% ลดลงจาก 26.4% ในไตรมาส 2/57 เนื่องจากมีสัดส่วนยอดขายจากเมก้าโฮมที่เพิ่มขึ้น

สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงเหลือ 23.2% ในไตรมาส 2/58 จาก 23.6% ในไตรมาส 2/57 เนื่องจากผลการดำเนินงานของร้านเมก้าโฮมปรับตัวดีขึ้น โดยสามารถรายงานกำไรเป็นครั้งแรกในได้เดือนมิ.ย.

รายได้ค่าเช่าและบริการสูงขึ้น 29% YoY เป็น 349 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มพื้นที่เช่าที่สาขาสุวรรณภูมิ หลังจากที่ปรับปรุงเสร็จสิ้นในเดือนพ.ค.

แนวโน้ม

กำไรจะยังคงชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 แต่เราคาดว่ากำไรจะเติบโตสูงกว่า 2% YoY ในช่วงครึ่งแรกของปี หนุนโดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของสาขาร้านโฮมโปรในกทม.และร้านเมก้าโฮม

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เรายังคงประมาณการและราคาเป้าหมายของเราไม่เปลี่ยนแปลง

คำแนะนำ

การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ PER ปี 2558 ของ HMPRO อยู่ที่ 22.4เท่า ต่ำที่สุดในรอบสี่ปี เราเชื่อว่าความเสี่ยงขาลงนั้นมีจำกัด ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 ที่ 8.20 บาท