ทดสอบแนวรับ 1400 จุด

ทดสอบแนวรับ 1400 จุด

ซื้อเก็งกำไรบริเวณ 1400 จุด เพื่อลุ้นรีบาวด์ ยังเน้นกลุ่มรับเหมา สื่อสาร ท่องเที่ยว และเพิ่มกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากบาทอ่อนค่า

Market Outlook

คาดดัชนีฯ วันนี้ ลดลง ทดสอบแนวรับ 1400 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไรลุ้นรีบาวด์ ที่แนวรับหลัก 1400 จุด

คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับลดลง ทดสอบแนวรับ 1400 จุด แนวต้าน 1420 จุด หลังได้แรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยตัวเลขการส่งออกไทยเดือน มิ.ย. หดตัวถึง 7.87%YoY และสหรัฐคงอันดับไทยให้อยู่ที่ Tier-3 ในประเด็นค้ามนุษย์ ส่วนการปรับ ครม. มีการส่งสัญญาณจากนายกฯ แต่อาจเป็นช่วงเดือน ก.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ การกังวลเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัว (PMI ก.ค. ต่ำสุดรอบ 15 ปี) และการดิ่งลงแรงรอบใหม่ของตลาดหุ้นจีนวานนี้ -8.45% กลับมาเป็นปัจจัยถ่วงหลักต่อประเทศเกิดใหม่ในเอเชียและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ประเด็นจับตาวันนี้ วันพุธ-การประชุมเฟด วันพฤหัสฯ-จีดีพีสหรัฐ 2Q58

กลยุทธ์ แนะนำ ซื้อเก็งกำไรเพื่อลุ้นรีบาวด์ บริเวณแนวรับจิตวิทยา 1400 จุด โดยยังคงเน้นกลุ่ม รับเหมา สื่อสาร ท่องเที่ยว และเพิ่มกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จากบาทอ่อนค่า


ปัจจัยต่างประเทศ

ตลาดหุ้นจีนกลับมาดิ่งลงแรง โดยวานนี้ดัชนี Shanghai Composite ของจีนปิดลงถึง 8.48% ถือเป็นการปรับลงในวันเดียวที่มากสุดนับตั้งแต่ปี 2007 จากก่อนหน้านี้ฟื้นตัวได้ดีหลังรัฐบาลจีนออกมาตรการต่างๆ เข้ามาพยุงตลาดหุ้น แต่นักลงทุนกลับมากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจหลังจีนรายงานตัวเลข PMI เบื้องต้นเดือน ก.ค. ในศุกร์หดตัวสุดในรอบ 15 เดือน และในวันจันทร์รายงานผลกำไรภาคอุตสหกรรมเดือน มิ.ย. หดตัว 0.3% โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หดตัว 0.6% บ่งชี้ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงของบริษัทขนาดใหญ่ สวนทางกับภาวะตลาดหุ้นที่ปรับขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงปีที่ผ่าน

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งที่มีแรงขายออกมาอย่างหนัก เนื่องจากมีการคาดว่าทางการจีนได้ถอนมาตรการพยุงตลาดหุ้นบางส่วนออกแม้มีการออกมาปฏิเสธภายหลังจาก China Securities Finance Corp. (เป็นตัวแทนทางการจีนให้ทำหน้าที่ให้มาร์จินและสภาพคล่องในตลาด รวมถึงการเข้าไปซื้อหุ้น) แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศมองว่า มาตรการหลายอย่าง เช่น การตั้งกองทุนเข้าไปซื้อหุ้นโดยตรงในตลาด หรือการห้ามผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้น เป็นการกระทำที่บิดเบือนกลไกราคาของตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่ IMF ออกโรงเตือนจีน ให้ถอนมาตรการต่างๆ ออก เพื่อให้ราคาหุ้นสะท้อนอุปสงค์อุปทานในตลาด จากมุมมองดังกล่าว ทำให้กองทุนจากต่างประเทศหลายกองไม่กล้ากลับเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นจีน

ผลกระทบหลังตลาดหุ้นจีนดิ่งลงหนัก เพิ่มความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่เดิมอยู่ในช่วงชะลอตัวอยู่แล้ว ส่งผลให้ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกปรับตัวลงตาม ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังดิ่งลงต่อเนื่อง เนื่องจากจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ขณะที่มีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) เพิ่มมากขึ้น ส่งผลราคาทองคำเริ่มทรงตัว และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดต่ำลง ขณะที่คาดแรงขายในตลาดหุ้นจะยังอยู่โดยเฉพาะในตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมถึงไทย

ปัจจัยในประเทศ

ส่งออกเดือน มิ.ย. หดตัวหนักกว่าคาด วานนี้ กระทรวงพาณิชย์ เผยภาวะส่งออกในเดือน มิ.ย. 58 ยังหดตัวถึง -7.87%YoY โดยติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่หดตัว -4.6% โดยกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าเกิดจากสาเหตุหลัก 1) ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลักในปัจจุบันที่ชะลอตัว 2) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงชะลอตัว 3) ราคาสินค้าเกษตรโลกปรับตัวลดลงมาก โดยมูลค่าส่งออกสินค้าในภาคเกษตรหดตัว -4.1% YoY ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงหดตัวลง -7.7%YoY
ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยชั่วคราวจากการเปลี่ยนรุ่นสินค้ารถกระบะ ทั้งนี้ หากไม่รวมสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและทองคำ มูลค่าการส่งออกรวมของไทยในเดือน มิ.ย. 58 จะหดตัว -5.8%YoY

สัญญาณทางเทคนิค รูปแบบระยะสั้น Daily สะท้อนดัชนีฯ เคลื่อนไหวอยูในกรอบขาลงใหญ่ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1420 จุด และกรณี Downside ต่ำสุดอยู่ที่ 1380-1375 จุด แต่สัญญาณ RSI ที่ลงมาใกล้ระดับ Oversold ทำให้คาดว่า ดัชนียังมีจุดลุ้นรีบาวด์จะอยู่ที่ 1400 และ 1375 จุด