'อภิสิทธิ์'ชี้ปรับครม.ใหญ่หรือไม่ อยู่ที่'ประยุทธ์' ตัดสินใจ

'อภิสิทธิ์'ชี้ปรับครม.ใหญ่หรือไม่ อยู่ที่'ประยุทธ์' ตัดสินใจ

“อภิสิทธิ์” ชี้ ปรับครม.ใหญ่หรือไม่ อยู่ที่ "ประยุทธ์" ตัดสินใจเอง แนะปรับคนไม่สำคัญเท่าปรับการทำงาน

ที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฏร์ธานี นายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เราหวังว่าท่าจะพิจารณาในเรื่องการ ปรับปรุงประสิทธิภาพในเรื่องงานที่อาจจะไม่ทันใจ หรือไม่สามารถที่จะตอบสนองประชาชนได้ ส่วนจะปรับอย่างไรอยู่ที่ท่าน การที่จะปรับเปลี่ยนบุคคลหรือไม่เป็นปัจจัยหรือ อีกด้านคืออาจะทบทวนแนวคิดวิธีการบริหารจัดการ ส่วนในเรื่องตัวบุคคลที่จะปรับนั้นก็อยู่ที่นายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงเรียกร้องให้ปรับทีมเศรษฐกิจ เริ่มตั้งแต่หัวหน้าที่ทีมนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า งานทางด้านเศรษฐกิจนั้น ก็เป็นงานที่น่าเห็นใจ เพราะมีปัจจัยที่เป็นลบอยู่หลายตัว และเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงยาก แต่ว่าต้องยอมรับความอึดอัด หรือความไม่พอในแง่ผลงานทางด้านงานเศรษฐกิจนั้นมี โดยเฉพาะในชนบทที่ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ และควรเร่งงาน ที่จะทำช่วยทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อ เราไปคาดหวัง เรื่องส่งออกหรือปัจจัยอื่นไม่ได้ ก็จะต้องมาทำอย่างไรให้ประชาชนในชนบท โดยเฉพาะเกษตรกรมีเงินหมุนเวียน น่าจะเป็นภารกิจสำคัญ

เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่สามารถแก้ได้ตามกำหนดเวลานั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องปัญหาเก่าก็เป็นข้อจำกัดหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันที่รัฐบาลยังอยู่ในวิสัยที่สามารถปรับปรุงแนวทางบางอย่างได้

เมื่อถามว่าหากมีการปรับครม.แล้ว มีการเชิญนักการเมืองในอดีตมาร่วมเป็นครม. มองอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือควรเน้นมุ่งเรื่องงานในเชิงบริหาร เพื่อตอบสนองการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่เป็นความคาดหวังของประชาชนมากกว่า อย่าไปให้น้ำหนักว่าเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ใช่พรรคการเมือง เพราะถ้ามีเรื่องนักการเมืองเข้าไปก็จะเป็นการไปเพิ่มปัญหาทางการเมืองขึ้นมาอีก ว่าทางคสช.เองก็วางตัวมาโดยตลอดว่า เป็นรัฐบาลชั่วคราวที่ไม่มีแนวคิดในการที่จะไปยื้อ ทอดอำนาจ แต่พอมีการเอานักการเมืองเข้ามา นักการเมืองบางคนบางคนอาจจะมาเป็นนักการเมืองในอนาคต ก็จะมีปัญหาเพิ่มขึ้น ตนมองว่าควรมุ่งเรื่องกาบริหารจะดีกว่า

เมื่อถามย้ำว่าหากมีการนำอดีตนักการเมืองมาจริงจะทำให้ศรัทธาของคสช.ลดลงหรือไม่ นายอภิสิทธิกล่าวว่า วันนี้ อย่าไปยึดเรื่องคน ให้ยึดเรื่องงานจะดีกว่า และถ้ามีความจำเป็นต้องปรับคนแล้วให้งานดีขึ้นท่านก็ต้องปรับ ถ้าเปลี่ยนคนแล้วงานยังเหมือนเดิมก็ไม่ควรเปลี่ยน

“ถ้าพูดรวมๆลักษณะแนวนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ยังเป็นแบบอนุรักษ์นิยมเกินไป ไปเกรงปัญหาเรื่องประชานิยมจนเกินไป ความจริงเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องเป็นประชานิยม ยังเป็นแบบอนุรักษ์นิยม ถ้ามีวิธีการที่เหมาะสมถูกต้อง นอกจากนั้นยังมีงานบางด้านที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบจริงที่เกิดกับประชาชนระดับล่างเพราะอาจจะเป็นความเชื่อในเรื่องกลไกตลาดบ้างสุดท้ายไม่ได้เข้ามาดูแลให้ประชาชนสามรรถที่จะมีกำลังซื้อหรือไม่ต้องไปตกในภาวะที่มีหนี้สินสูง ในเรื่องภัยแล้งรัฐบาลต้องมีความชัดเจนเลยว่า จะชดเชยประชาชนอย่างไร การไปให้รีรอหรือชะลอเป็นการไปสร่งภาระให้ประชาชนได้ ” นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า

เมื่อถามต่อว่าหากไม่มีการปรับออกก็ควรที่จะมีการเพิ่มบุคลากรมาช่วยงาน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าจะไม่ปรับบุคล ก็อยากให้นายกฯประกาศเลยว่าไม่ปรับ แล้วเร่งเดินหน้าทำงาน