เส้นทาง 'นักรบบูรพา' ใต้ร่มเงาพี่ใหญ่ 'บิ๊กป้อม'

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ลาป่วยหลายวัน เลยทำให้เกิดกระแสข่าวลือ “ปรับ ครม.” มากมาย บ้างก็ว่า “พล.อ.ประวิตร” จะถูกลดเหลือรองนายกฯ ตำแหน่งเดียว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาดับกระแสข่าวลือทันที โดยบอกว่า พล.อ.ประวิตรเจ็บแขน เลยไปไหนมาไหนไม่สะดวก และไม่มีการปรับ ครม.หรือลดตำแหน่งอะไรทั้งสิ้น
สำทับด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์อีกครั้งว่า “ยังมีสื่อ ที่ไม่หยุดเขียน หยุดวิจารณ์ เม้าธ์ มโน ไปว่า นายกฯ จะปรับผมออกจาก รมว.กลาโหม ผมเลยน้อยใจ เลยแกล้งป่วย ไม่สบาย ลาไม่มาทำงาน ผมหกล้ม จริงๆ ใครจะแกล้ง บ้าแล้ว มันมั่วข่าว มโนไปได้จริงๆ เดินหกล้ม ไม่ใช่ขี่จักรยานแล้วล้ม ไม่มี”

ประโยคหนึ่งที่มีความชัดเจนจาก พล.อ.ประวิตร “ไม่มีการเปลี่ยน รมว.กลาโหม เพราะผมคงต้องช่วยท่านนายกฯต่อไปอีก จะมาทิ้งกันกลางทางไม่มีหรอก”

000

จะว่าไปแล้ว ความสัมพันธ์ของเหล่าพี่น้อง “นักรบบูรพา” นั้นแนบแน่นมาเนิ่นนาน และเกินกว่าจะมาแตกแยกกันด้วยเรื่องการเมือง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก นี่คือจุดเริ่มต้นของการถากถาง “เส้นทาง” ให้น้องๆ เหล่านักรบบูรพา ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกติดต่อกันถึง 3 คน

“บ้านหลังใหญ่” ของขุนศึกบูรพาคือ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ประกอบด้วย 3 กรมคือ กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ค่ายจักรพงษ์ ปราจีนบุรี ,กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ค่ายไพรีระย่อเดช สระแก้ว และกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี ชลบุรี

30 กว่าปีที่แล้ว ร.21 รอ. หรือค่ายทหารเสือราชินี ดูจะมีความแปลกแยกจาก “ทหารปราจีน-สระแก้ว” ที่ได้ชื่อว่า นักรบบูรพาของแท้

วันที่ 1-4 เมษายน 2524 พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ได้นำกำลังทหารจากค่ายจักรพงษ์ 3 กองพัน เข้าร่วมก่อการยึดอำนาจร่วมกับ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร หัวขบวนยังเติร์ก จปร.7

ขณะเดียวกัน ฝ่ายต้านปฏิวัติ นำโดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ส่งทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ “ทหารเสือราชินี” เข้าปราบกลุ่มยังเติร์ก จปร.7 จนฝ่ายก่อการยึดอำนาจต้องยอมแพ้ในที่สุด
เมื่อทหารปราจีนบุรี กลายเป็นกบฏผู้พ่าย ทางฝ่ายผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ส่งนายทหารจากค่ายนวมินทราชินี ชลบุรี มาเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารที่ปราจีนบุรี

หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ขณะนั้นมียศ “พันตรี” เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 พัน 2 รอ.) ปราจีนบุรี และย้ายไปคุมพื้นที่่สระแก้ว เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์

‘พล.อ.ประวิตร’ ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ปี 2539 และได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ปี 2548

ว่ากันว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร นี่แหละที่เป็นต้นขั้วนักรบบูรพา เพราะผ่านการคุมกำลังทั้งสามกรม ก่อนขึ้นเป็น “แม่ทัพบูรพา”

สมัยที่ พล.อ.ประวิตร เป็น ผบ.ร.2 พัน 2 รอ.ก็มีลูกน้องที่สนิทชิดเชื้อคือ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช สมัยนั้นมียศ “ร้อยเอก”

“บิ๊กหมู” หรือ พล.อ.ธีรชัย นั้นเติบโตมาใน ร.2 พัน 2 รอ. หรือลูกหม้อค่ายจักรพงศ์ และเคยติดตาม พล.อ.ประวิตร ไปสังกัด ร.12 รอ. สระแก้ว สมัยอยู่ชายแดนตาพระยา พวกมาเฟียแถวชายแดนต่างประจักษ์ในความเป็น “ขาบู๊” ของ “บิ๊กหมู” เป็นอย่างดี

กล่าวได้ว่า พล.อ.ธีรชัย เติบโตใกล้ชิดมากับ พล.อ.ประวิตร นั่นเอง จึงกลายเป็นน้องสุดรักของ “บิ๊กป้อม”
แม้ พล.อ.ธีรชัย ไม่ได้ขยับเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ แต่ก็ขยับข้ามมาเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 แล้วได้ขึ้นเป็นรองเสนาธิการทหารบก

กระทั่ง ก่อนการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแม่ทัพบก ได้ พล.อ.ธีรชัย มาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลังสำคัญ เพราะหลังรัฐประหาร พล.อ.ธีรชัย ได้ทำหน้าที่ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ (ผบ.กกล.รส.) ของ คสช. ที่คุมกำลังทหารทุกกองทัพภาค

ว่ากันว่า พล.อ.ธีรชัย กลายเป็นตัวเลือกที่จะนั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการทหารบก มิเพียงแต่เป็น “น้องรัก” ของ พล.อ.ประวิตร ฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์เอง ก็คงไม่อยากจะถูกโจมตีว่า พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา “น้องในไส้” ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เพื่อค้ำฐานอำนาจ ค้ำเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของตนเอ

จริงๆแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ สนับสนุน พล.อ.ธีรชัย เป็น ผบ.ทบ. ที่เป็นเสมือน “น้องชาย” ร่วมขั้วอำนาจเดียวกัน เขาเองก็จะได้รับเสียงชื่นชม ที่ไม่ได้ดันน้องชายเป็น ผบ.ทบ.

หากว่า พล.อ.ธีรชัย เป็นแม่ทัพบกจริง ก็เท่ากับ “ขุนศึกบูรพา” ต่อแถวเป็น ผบ.ทบ. ติดต่อกัน 4 คน
ตั้งแต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร และ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์กองทัพไทย

...........................................

“รวมพลคนการเมือง” ในวันวิวาห์

ค่ำคืนวันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2558 ที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพ มีพิธีมงคลสมรส ระหว่าง วณิศรา บุญยะลีพรรณ กับ ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ บุตรชาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธาน และในงานมีบรรดาแขกเหรื่อมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ไฮไลท์ของงานอภิมหาวิวาห์ครั้งนี้คือ “คนการเมือง” เนื่องจากก่อนหน้านั้น ข่าวลือ “ปรับ ครม.” ดังกระหึ่มเมืองว่า “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” มานั่งเก้าอี้ขุนคลัง หรือแม่ทัพเศรษฐกิจ แทน “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล

ภายในงานวิวาห์หวาน จึงมีตัวแทนรัฐบาล คสช. มากันพร้อมหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย,พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติฯ, พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รัฐมนตรีพาณิชย์, วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ,ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีพลังงาน และ ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีเกษตรฯ

ส่วนกลุ่มการเมืองที่ใกล้ชิด คสช. ที่เคยตกเป็นข่าวว่า อาจจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษารัฐบาล ในการปรับ ครม.ครั้งใหม่ ก็มากันคึกคัก

อาทิ พินิจ จารุสมบัติ, ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ,สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, สุวัจน์ ลิปตพัลลภ, สมศักดิ์ เทพสุทิน และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

การปรากฏตัวของ “คุณหญิงหน่อย” ได้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับแอบแซวระหว่างการขึ้นบนเวที เพื่ออวยพรคู่บ่าวสาว

จริงๆ แล้ว นักการเมืองที่เอ่ยนามข้างต้นนี้ ล้วนมีความสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม

แถมมีข่าวลือว่า บรรดาอดีต ส.ส.ระดับขาใหญ่ ได้นัดปรึกษาหารือเรื่องปรับ ครม. กับตัวแทน “บิ๊กป้อม” ที่เขาใหญ่ ซึ่งในเวลาต่อมา โฆษก คสช.ได้ปฏิเสธข่าวนี้

กลุ่มภูมิใจไทยก็มาร่วมงาน แม้ไม่มีเนวิน ชิดชอบ หรืออนุทิน ชาญวีรกูล ก็ยังเห็นหน้า สรอรรถ กลิ่นประทุม ชวรัตน์ ชาญวีรกูล และอนุชา นาคาศัย ซึ่งก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า “สรอรรถ” จะเป็นตัวแทนของกลุ่มนี้ไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ในรัฐบาลประยุทธ์ 3

สำหรับกลุ่มอดีต ส.ส.ไทยรักไทย ที่ไม่เคยเห็นหน้าบ่อยนักอย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ,เสนาะ เทียนทอง, สุวิทย์ คุณกิตติ ก็มาเป็นเกียรติในงานมงคล รวมทั้ง สนธยา คุณปลื้มและพงษ์เทพ เทพกาญจนา

ส่วนกลุ่มประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อภิรักษ์ โกษะโยธิน และอลงกรณ์ พลบุตร ได้มาแสดงความยินดีเช่นกัน

เชื่อว่างานวิวาห์ลูกชาย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่คลาคล่ำไปด้วย “บิ๊กเนมการเมือง” คงจะตกเป็นข่าวเมาท์ในสภากาแฟไปอีกหลายวัน