Daily Market Outlook (8 ก.ค.58)

Daily Market Outlook (8 ก.ค.58)

กังวลปัญหากรีซ

คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ รุมเร้าทั้งปัจจัยลบภายนอก และภายในประเทศ ภายในประเทศ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลง และความกังวลหนี้เกษตรกร ภายนอกประเทศปัญหาวิกฤตกรีซ ตลาดหุ้นจีนที่ยังร่วงต่อร่วมกันกดดันหุ้นไทย


หุ้นเด่นวันนี้:    UNIQ  (Bt17.40; AWS: NR; 15TP SETSMART Bt19.40)

บริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำที่เชี่ยวชาญงานโยธาขนาดใหญ่ โดยเฉพาะของภาครัฐ บริษัทน่าจะได้ประโยชน์อย่างยิ่งจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล ในไตรมาส 1/58 กำไรของบริษัทขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง 24.1%YoY มาอยู่ที่ 153.1 ล้านบาท UNIQ กำลังดำเนินโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและแดงของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่จะได้เข้าร่วมก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่ และโครงการอื่นๆของ รฟม. จากการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ SET SMART กำไรของ UNIQ น่าจะขยายตัวร้อยละ 68 ในปีนี้ ชะลอลงเป็นร้อยละ 25 ในปี 2016 ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือไม่ต่ำกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดรายรับครอบคลุม 3 ปี ข้างหน้า จากมูลค่างานภาครัฐที่จะประมูลกันราว 1.4 แสนล้านบาทในครึ่งหลังของปีนี้ UNIQ น่าจะชนะการประมูลได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้มูลค่างานในมือกลายเป็นกว่า 5 หมื่นล้านบาท รูปแบบราคาของหุ้น UNIQ แข็งแกร่งมากหลังจากเกิดสัญญาณซื้อทั้งในรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าหุ้นนี้กำลังจะทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากเพิ่งปิดทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานที่ 17.40 บาท เป้าหมายต่อไป คือ 17.90 บาท และ 20.30 บาท ตามลำดับ (แนวต้าน: 17.70, 18.00,18.40; แนวรับ: 17.30, 17.00, 16.60)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเหลือ 3% จากเดิม 3.5% จากเหตุการส่งออกที่คาดใหม่ว่าจะขยายตัวติดลบ 2% ปีนี้ จากเดิมที่ว่าจะโตไม่ถึง 1%(The Nation)

• ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ธนาคารแห่งประเทศไทย แต่งตั้ง ดร.วีรไทย สันติประภพ เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ในระยะเวลา 5 ปี นับจากนี้ หลังจาก ดร.ประสาน ไตรรัตน์วรกุล สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ คนปัจจุบันในเดือน ก.ย. ล่าสุด ดร.วีรไทย เป็นหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ (Bangkok Post)

• ททท. มุ่งคว้าอันดับท็อป 3 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้สรุปแผนการตลาดสำหรับปีนี้ซึ่งจะเป็นการวางไทยให้เป็นจุดหมายท่องเที่ยวระดับบนและรักษาตำแหน่ง 3 อันดับแรกในเอเชียในรูปของรายได้ภาคท่องเที่ยว แผนนี้จะเน้นการเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวโดยพยายามดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเที่ยวนานขึ้นและเน้นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เช่น จีน อินเดียและอาเซียน (The Nation)


• นายกระวังหนี้เกษตรกรมากขึ้น นายกประยุทธ์ จันโอชา เตือนหน่วยงานรัฐบาลให้ติดตามหนี้นอกระบบอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเกรงว่าภาระของผู้กู้จะเพิ่มขึ้นจากภาวะภัยแล้งและเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นายกยังได้กล่าวให้หน่วยงานคิดมาตราการใหม่ที่จะให้การช่วยเหลือได้ทันที เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Bangkok Post)

• นิสสัน (ประเทศไทย) มองตลาดรถยนต์ของไทยต้องใช้เวลาสองปี จึงจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่ โดยจะต้องจับตาดูประเด็นทางเศรษฐกิจเช่น ราคาพืชผลเกษตรและภาวะภัยแล้ง ภาวะการแข่งขันในตลาด มาตราการภาษีใหม่สำหรับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวอยู่บ้างในครึ่งปีหลังของปี 58 (Post Today)

• BCP ตั้งงบลงทุนจำนวนจำนวน 1.0 พันล้านบาทเพื่อใช้ขยายกำลังการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 17% เป็น 140,000 บาร์เรลต่อวันจากระดับปัจจุบันที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน โดยคาดจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ และจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2560 (Bangkok Post) ความเห็น: เราเชื่อว่าประเด็นการลงทุนดังกล่าวมีไว้เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจสถานีบริการน้ำมันของบริษัท เช่นเดียวกับความต้องการใช้ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามด้วย Upside ราคาหุ้นในปัจจุบันที่ค่อนข้างจำกัด เราจึงแนะนำถือรับปันผลสำหรับ BCP โดยคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้ได้ราว 3.6%

• SIM (2.26 บาท, ราคาเป้าหมาย 3.68 บาท) คาดว่าจะจำหน่ายมือถือในตลาดต่างประเทศได้ถึง 1 ล้านเครื่องเพื่อชดเชยยอดในประเทศที่ลดลง โดยบริษัทได้เปลี่ยนไปเล่นตลาดต่างประเทศมากขึ้น เริ่มจากตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกาและอาเซียน เป้าหมาย 1 ล้านเครื่องนี้น่าจะอยู่ที่ราว 20% ของเป้ายอดขายปีนี้ เพิ่มจากปีที่แล้วซึ่งเท่ากับ 15% (The Nation)

• TRUE ให้ทรูมูฟเอชจับมือกับมิสทีนออกแคมเปญ “ทรูบิวตี้” แจกสิทธิประโยชน์ให้สาวมิสทีน 1 ล้านคน ได้แก่ค่าโทรฟรี 100 บาทภายในเครือข่ายทรูด้วยกันและสิทธิพิเศษในการเติมเงินเช่นการเล่นโซเชียลได้ไม่อั้น (The Nation)

ต่างประเทศ:

• ยูโรโซนให้เวลากรีซถึงวันอาทิตย์นี้ ในการเจรจาหนี้ ผู้นำของยูโรโซนได้ประชุมฉุกเฉินที่กรุงบรัสเซลล์เมื่อวันอังคารและจะมีการนัดประชุมกันอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้เพื่ออนุมัติแผนช่วยเหลือกรีซหากสถาบันเจ้าหนี้ทั้งหลายพอใจกับเงื่อนไขการขอกู้ยืมและแผนปฏิรูปของกรีซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นางอังเกลา แมร์เคิล กล่าวว่าเธอคาดหวังว่ากรีซจะยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการในวันพุธและมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของกรีซในวันพฤหัสนี้เพื่อเพื่อนำไปแสวงหามติเห็นชอบจากรัฐสภาเยอรมนีและจะได้เริ่มต้นเจรจากันต่อไป (Reuters)

• ธนาคารกลางยุโรปปล่อยธนาคารกรีซถึงวันอาทิตย์ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ได้รับประกันกับเหล่าผู้นำเขตยูโรว่าธนาคารกลางแห่งนี้จะช่วยพยุงระบบธนาคารของกรีซจนกว่าจะถึงการประชุมในวันอาทิตย์นี้เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกรีซ (Reuters)

• ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวฉุดตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและการดิ่งลงของดัชนีตลาดหุ้นจีนมีผลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกในระยะนี้ ราคาทองแดง ถ่านหิน กาซธรรมชาติและเหล็กต่างร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในปี 58 (Reuters)

• อิหร่านและประเทศมหาอำนาจได้ให้เวลาถึงวันศุกร์นี้เพื่อเจรจา ข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน การเจรจามีวัตถุประสงค์ที่จะยับยั้งโครงการอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งดำเนินการมานานกว่าหนึ่งทศวรรษแลกเปลี่ยนกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจซึ่งจะตัดการส่งออกน้ำมันซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเป็นอัมพาต ข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงหลายทศวรรษเกี่ยวกับการลดความเป็นปรปักษ์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน (Reuters)

สหรัฐ:

• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก เนื่องจากราคาน้ำมันดีดตัวกลับซึ่งชดเชยกับข่าวเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและวิกฤตหนี้ของกรีซ(Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปปิดลงต่อในวันอังคาร เนื่องจากกรีซได้รับคำสัญญาแสวงหาข้อตกลงช่วยเหลือนาทีสุดท้ายจากที่ประชุมประชุมซัมมิทฉุกเฉินยูโรโซนในวันอังคาร (Reuters)


เอเชีย:

• ตลาดหุ้นจีนยังร่วงลงแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ดัชนีตลาดหุ้นจีนร่วงลงมากกว่า 5% ระหว่างวันแต่ปิดลงไม่ถึง 2% เนื่องจากการเข้าช้อนซื้อหุ้นอย่างหนักเพื่อพยุงดัชนีตลาดเซี่ยงไฮ้ถึงแม้ว่าหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำในเซิ่นเจิ้นยังร่วงลงต่อ (Reuters)

• ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นได้เกินดุลเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันในเดือน พ.ค. เนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลงได้กระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศและสินค้านำเข้าที่ลดลงทำให้การขาดดุลการค้าลดลง ยอดเกินดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 1.88 ล้านล้านเยน (1.536 หมื่นล้านดอลลาร์) เทียบกับตัวเลขประมาณการว่าจะเกินดุลที่ 1.54 ล้านล้านเยน (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• ทองคำร่วงจากค่าดอลลาร์แข็ง ราคาทองตลาดจรปรับลง 14.50 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 1.24% เหลือ 1,155.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันอังคารหลังแตะระดับต่ำสุดของเกือบ 4 เดือนที่ 1,148.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงระหว่างวัน เป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของยุโรปทำให้นักลงทุนหันไปถือดอลลาร์เพิ่มจึงทำให้แข็งค่าซึ่งชนะผลของการซื้อทองเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Reuters)

• ราคาน้ำมันยังยืนได้จากความหวังอุปทานจะลด น้ำมันถูกกดันโดยความกังวลหนี้กรีซและตลาดหุ้นจีนที่ร่วงแต่ยังมีการหนุนโดยความหวังว่า EIA จะประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันที่ลดลง โดยผลสำรวจรอยเตอร์สคาดว่าจะร่วงลง 0.7 ล้านบาร์เรล NYMEX ร่วงลง 20 เซนต์หรือปิด 52.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์กลับเพิ่มขึ้น 31 เซนต์สู่ระดับ 56.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบา