ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์การขายหุ้นใหม่คาดบังคับใช้ส.ค.นี้

ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์การขายหุ้นใหม่คาดบังคับใช้ส.ค.นี้

ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์การขายหุ้นใหม่ หวังสร้างความเป็นธรรมกับนักลงทุน สั่งติดไซเรนต์พีเรียดห้ามขาย 1 ปี คาดเริ่มบังคับใช้ ส.ค. นี้

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า การปรับปรุงเกณฑ์การเสนอขายหุ้นออกใหม่แก่บุคคลในวงจำกัด (พีพี) เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ได้ข้อสรุปว่า หากเป็นการเสนอขายที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด หรือกำหนดราคาเสนอขายไว้ล่วงหน้าก่อนวันที่เสนอขาย บริษัทจะต้องยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน พร้อมร่างหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบก่อน คาดว่าจะมีผลบังคับภายใช้ในเดือนส.ค.นี้ และเกณฑ์ดังกล่าวจะใช้ควบคู่กับข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องกำหนดเวลาการห้ามขายหุ้น (ไซเรนต์พีเรียด) ที่มีในปัจจุบัน

สำหรับหลักเกณฑ์ของตลท.เรื่องไซเรนต์พีเรียด ระบุว่าผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นพีพี ราคาต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดที่คิดจากราคาเฉลี่ยของหุ้นย้อนหลัง 7-15 วันติดต่อกันก่อนวันแรกที่เสนอขายพีพี คือ ห้ามผู้ลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหุ้นพีพีขายหุ้นเป็นเวลา 1 ปี และจะขายหุ้นได้ 25% ของหุ้นที่ติดเงื่อนไขในการห้ามขายเมื่อพ้น 6 เดือนแรก

“การแก้ปัญหาเกณฑ์พีพี เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นเดิม และคอยสกัดการเพิ่มทุน ที่ไม่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน หรือการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เพราะที่ผ่านมา มีบริษัทจดทะเบียนเสนอขายหุ้นพีพีเพิ่มขึ้นมาก และหลายกรณีทำ ให้ผู้ถือหุ้นเกิดข้อสงสัยว่า การขายหุ้นพีพี เพื่อเพิ่มทุนถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ ดังนั้นต้องเร่งปิดช่องโหว่ ที่กระทบต่อผู้ถือหุ้นโดยเร็วที่สุดโดยหามาตรการเข้ามาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ส่วนการเพิ่มทุนแบบพีพี ที่เสนอขายตามราคาตลาดยังดำเนินการได้อย่างคล่องตัวต่อไป”

นอกจากนี้ ต้องพิจารณาความเหมาะสมของวิธีการเสนอขาย ราคาหรือวิธีการกำหนดราคาเสนอขาย รวมถึงการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน โดยให้เปิดเผยประเด็นดังกล่าวอย่างชัดเจนในหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างเพียงพอ