'บวรศักดิ์'ระแวงหนัก สั่งจนท.ประจำห้องประชุมยกร่างรธน.

'บวรศักดิ์'ระแวงหนัก สั่งจนท.ประจำห้องประชุมยกร่างรธน.

“บวรศักดิ์” ระแวงหนัก สั่งจนท.ประจำห้องประชุมยกร่างรธน. เช็คเทปบันทึกเสียง หวั่นนักข่าวแอบซุกเพื่อฟังผลการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ตามข้อเสนอและคำขอแก้ไขจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นวันที่เก้า โดยจะเข้าวาระพิจารณาในส่วนที่ว่าด้วยวุฒิสภา ทั้งนี้ก่อนเข้าประชุมนายบวรศักดิ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนที่รอสัมภาษณ์ถึงประเด็นการนำเสนอข่าวที่นำคำพูดในห้องประชุมกมธ.ยกร่างรัฐธรมนูญแบบคำต่อคำไปนำเสนอ ว่าได้เนื้อหามาอย่างไร โดยสื่อมวลชนปฏิเสธว่าไม่ทราบและไม่รู้ถึงการนำเสนอข่าวตามที่นายบวรศักดิ์ระบุ

มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่าก่อนการประชุมในหมวดว่าด้วยการเมือง นายบวรศักดิ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ประจำห้องประชุมกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เช็คทุกมุมของห้องประชุมว่ามีการนำเทปบันทึกเสียงซ่อนไว้อยู่ภายในห้องประชุมหรือไม่ และเมื่อเจ้าหน้าที่ประจำห้องเช็คแล้วไม่พบเทปบันทึกเสียงการประชุมจึงได้เริ่มขึ้น  

ทั้งนี้ก่อนการประชุมนายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูย ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าการปรับจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมปรับบัญชีเลือกตั้งของส.ส.ให้เหลือเพียงบัญชีเดียวนั้น ไม่กระทบต่อเจตนารมณ์หลักของเนื้อหาที่ต้องการให้พรรคการเมืองได้จำนวนส.ส.ที่ตรงกับคะแนนนิยมของประชาชนและเสียงเลือกตั้งของประชาชนทุกเสียงมีความหมาย แต่การปรับในเรื่องของส.ส.ดังกล่าวเป็นไปเพื่อความเหมาะสมเท่านั้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่าภายหลังจากที่กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญรอบสุดท้ายแล้วเสร็จ จะเปิดให้สปช. ทุกกลุ่มคำขอแก้ไข และคณะรัฐมนตรีที่เสนอคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมารับฟังรายละเอียดของการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้ยังกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนไม่ได้

“ผมเชื่อว่าเมื่อสปช. ได้เห็นรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ปรับแก้ไขอย่างเป็นทางการแล้ว จะยอมรับร่างรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน” นายคำนูณ กล่าว

นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีสปช. เสนอให้ใช้การลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญด้วยวิธีลงคะแนนลับนั้น ไม่ทราบในข้อเสนอดังกล่าว แต่ประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมาได้ทำอย่างเปิดเผย ซึ่งตนมองว่าควรใช้การออกเสียงตามประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมาและยึดข้อบังคับการประชุมสปช. ด้วย