กังวลกรีซ-จีน ฉุดน้ำมันร่วง 8%

ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนสิงหาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ร่่วงลงมา 4.43 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 52.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกันที่ตลาดลอนดอนอังกฤษ ดิ่งลง 3.78 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 56.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

เทรดเดอร์ชี้ว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นในกรีซ ประกอบกับภาวะไร้เสถียรภาพของตลาด ทำให้ความต้องการน้ำมันโลกหดหายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งวิกฤติกรีซ ยังหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทำให้ต้นทุนการซื้อขายน้ำมันดิบสำหรับผู้ที่ใช้เงินสกุลอื่นๆ สูงขึ้นด้วย 

หุ้นพลังงานนำตลาดสหรัฐปิดลบ

ราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างนัก ยังทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน กลายเป็นแกนนำขาลงของตลาดหุ้นสหรัฐ 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายวานนี้ (6 ก.ค.) ลดลงเล็กน้อย 46.53 จุด  หรือ 0.26% มาอยู่ที่ 17,683.58 ขณะที่ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ลดลง 8.02 จุด หรือ 0.39% มาอยู่ที่ 2,068.76 และดัชนีแนสแด็ก ปรับลงมา 17.27 จุด หรือ 0.34% ปิดตลาดที่ 4,991.94 จุด 

การร่วงลงของหุ้นสหรัฐ ถือว่าเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวของตลาดหลักๆ ในยุโรป 

ดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ร่วงลง 2.01% มาอยู่ที่4,711.54 จุด ขณะที่ดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนี ลดลงไป 1.52% ที่ 10,890.63 จุด และดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ ปิดตลาดปรับลงมา 0.76% ที่ 6,535.68 จุด 

นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้การทำประชาพิจารณ์จะถือเป็นชัยชนะของรัฐบาลหัวเอียงซ้ายของกรีซ แต่การยึดมั่นในนโยบายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะกลายเป็นภัยคุกคาม ที่ทำให้ธนาคารกรีซเงินหมดภายในไม่กี่วัน และทำให้กรีซตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น