ชุดสืบสวน วิเคราะห์แรงจูงใจ 'สมยศ' ตายใครได้ประโยชน์มากสุด

ชุดสืบสวน วิเคราะห์แรงจูงใจ 'สมยศ' ตายใครได้ประโยชน์มากสุด

ตร.ชุดสืบสวนฯนครบาล วิเคราะห์แรงจูงใจ "เสี่ยสมยศ" ตายใครได้ประโยชน์มากสุด

พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีสังหารนายสมยศ สุธางกูร เจ้าของร้านพระราม 9 คาเฟ่ กล่าวว่า จากการสอบสวนนางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ คนสนิทนายสมยศ ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี นอกจากนี้ชุดสืบสวนได้มีการเชิญตัวนายเอก ผู้จัดการส่วนตัวนักร้องลูกทุ่งหญิง “ดาว มยุรี” ที่สนิทสนมกับนายสมยศประมาณ 20 ปี มาให้ปากคำถึงประเด็นต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ได้รายละเอียดพอสมควร

ส่วนนายวิศิษฎ์ สัจพจน์นุกูล เจ้าของสนามไดร์ฟกอล์ฟ นัมเบอร์วัน ที่เคยมาเล่นไพ่ที่บ้านนายสมยศ อยู่ระหว่างเชิญตัวมาสอบสวน ทั้งนางรัศมี ภรรยานายสมยศ และนางศุภนิดา ชุดสืบสวนสอบสวนยังคงมีข้อสงสัยว่า คนร้ายทราบได้อย่างไรว่าผู้ตายอยู่ที่ร้านอาหารก่อนถูกคนร้ายดักยิง ซึ่งนางรัศมี บอกว่านางศุภนิดา ก็รู้เช่นกัน แต่นางศุภนิดา ยังคงปฏิเสธอยู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ชุดสืบสวนต้องตรวจสอบเพิ่มเติม และวันนี้ (6 มิ.ย.) เวลา 19.00 น. จะมีการเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี ที่บก.สส.บช.น.

รายงานข่าวระบุว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้วิเคราะห์แรงจูงใจถึงปมสังหารว่า หากนายสมยศเสียชีวิต ใครจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ขณะนี้ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่านางศุภนิดา มีการนำเงินจำนวน 20 ล้านบาทของนายสมยศ ที่มีผู้จ้างให้ช่วยวิ่งเต้นเคลียร์คดีความ โดยเงินส่วนหนึ่งนางศุภนิดา เอาไปให้ นายสมชัย นิตยา หรือเล็ก ชุมพร ไปเล่นการพนัน และเงินบางส่วนนำไปซื้อที่ดินจำนวน 2 แปลง ที่จ.ชุมพร รวมทั้งวิเคราะห์ผู้ที่เสียผลประโยชน์ที่เป็นผู้จ้างวานฆ่านายสมยศ อาจเป็นเจ้าของคดีรายต่างๆ จำนวน 20 คดี ที่นายสมยศ รับเงินแล้วเคลียร์คดีไม่สำเร็จ