'ชิลี'แม่นโทษซิวแชมป์โคปา โค้ชฟ้าขาวมั่นใจได้ทำทีมต่อ

 เมื่อเช้าวันที่ 5 กรกฎาคม (เวลาประเทศไทย) ที่สนามกีฬาแห่งชาติกรุงซานติอาโก เป็นการพบกันของ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา ทีมเต็ง 1 ที่ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงครบ พบกับชิลี เจ้าภาพที่ไม่มี กอนซาโล ฮารา กองหลังตัวเก่งที่ติดโทษแบน

เกมนี้แม้ว่าทั้งคู่พยายามจะเปิดเกมแลกกัน แต่ในเวลาปกติ 90 นาทีเสมอกันอยู่ 0-0 ทำให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที และทั้งคู่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 120 นาที ยังเสมอกัน 0-0

จึงต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ 5 คน ปรากฏว่า ชิลี ที่เป็นฝ่ายยิงก่อน ชนะ 4-1 เมื่อ 4 คนแรก ของ ชิลี ยิงเข้าทั้งหมด แต่อาร์เจนตินา ยิงเข้าเพียงคนเดียว จาก ลิโอเนล เมสซี กองหน้ากัปตันทีม ที่ลงมายิงเป็นคนแรก หลังจากนั้น กอนซาโล อิกัวอิน กองหน้า กับ เอเวร์ บาเนกา มิดฟิลด์ตัวกลาง ที่ลงมายิงเป็นคนที่ 2 กับ 3 ยิงพลาดทั้งคู่ ส่งผลให้ ชิลี เป็นแชมป์โคปา อเมริกา เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และทำสถิติไม่แพ้ใครเลย 6 นัด ตั้งแต่รอบแรก ขณะที่ อาร์เจนตินา ยังต้องรอแชมป์ต่อไปหลังจากไม่ได้ถ้วยแชมป์มาแล้ว 22 ปี

หลังการแข่งขัน เคราร์โด มาร์ติโน กุนซือทีมฟ้าขาว ยืนยันว่ายังไม่ถอดใจแม้จะพลาดแชมป์ในครั้งนี้อย่างน่าเสียดาย และพร้อมจะนำทีมแก้ตัวในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ส่วนเกมที่ผ่านมาเป็นเกมที่สูสีแต่ อาร์เจนตินา ก็น่าจะชนะได้ตั้งแต่ในเกม 120 นาที

“ความพ่ายแพ้อย่างวันนี้ไม่ได้เปลี่ยนการวิเคราะห์ของผม ตลอด 120 นาที มันเป็นเกมที่เท่าๆ กัน แต่ อาร์เจนตินา ควรจะชนะ เรามีโอกาสหลายหนทั้งจาก นิโก ออตตาเมนดี, โปโช ลาเวซซี และอิกัวอิน พวกเขาต่างมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเกมได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเราจะเดินหน้าต่อไปด้วยแนวคิดเดิม เพื่อตามล่าหาความสำเร็จต่อไป” มาร์ติโนกล่าว

ด้าน ฮอร์เก ซัมเปาลี เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของชิลี มองว่าทีมมีโอกาสจะเป็นแชมป์ตั้งแต่ช่วง 90 นาที แต่สุดท้ายแม้ว่าจะได้แชมป์ด้วยการยิงจุดโทษ แต่ก็ต้องชื่นชมความทุ่มเทของลูกทีม ที่มีวินัยตั้งแต่เกมแรกจนเกมสุดท้าย