โบรกเกอร์จีนลงขัน 1.2 แสนล้านหยวนสกัดหุ้นร่วง
โบรกเกอร์จีน 21 รายลงขัน 1.2 แสนล้านหยวนหวังแก้ปัญหาไม่ให้หุ้นร่วงหนักเหมือนในช่วง 3 สัปดาห์หลังสุด
บริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์ใหญ่ที่สุด 21 รายในจีนประกาศร่วมกันในเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.) ว่า จะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอย่างน้อย 120,000 ล้านหยวน เพื่อสกัดไม่ให้ราคาหลักทรัพย์รูดลงหนักเหมือนในช่วง 3 สัปดาห์มานี้
สมาคมหลักทรัพย์จีนแถลงหลังประชุมฉุกเฉินที่กรุงปักกิ่งว่า จะลงทุนในกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรืออีทีเอฟอย่างน้อย 120,000 ล้านหยวนหรือประมาณ 614,400 ล้านบาท คิดเป็น 15% ของทรัพย์สินสุทธิรวมกันของบริษัทในสมาคม และรับปากว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ หลังจากที่ได้ดำเนินมาตรการยับยั้งการเทขายหลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง
นอกจากนี้ สมาคมฯยังยืนยันว่า บริษัทในสมาคมจะไม่ขายหลักทรัพย์ที่ถือไว้จนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม และจะเข้าซื้อหลักทรัพย์เพิ่มเนื่องจากดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตยังคงต่ำกว่า 4,500 จุด
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นตลาดหลักของจีนร่วงลงเกือบ 30% ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 3,686.92 จุด ลดลงจากวันก่อน5.77% ขณะเดียวกันคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้ประกาศจำกัดการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือไอพีโอ หวังสกัดไม่ให้ราคาหลักทรัพย์ร่วงลงอีก
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สถานการณ์ตลาดหลักทรัพย์จีนขณะนี้ไม่เกี่ยวข้องกับวิกฤติในยุโรป แต่เป็นเพราะตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ทะยานขึ้นไปถึง 150% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จึงถึงเวลาที่ต้องมีการปรับฐานอย่างรุนแรง
