GUNKUL- ซื้อ

ทยอยประกาศโซลาร์ญี่ปุ่นตามสัญญา

การเข้าซื้อกิจการโซลาร์ที่ญี่ปุ่นโครงการที่ 2 ผลักดันให้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ของ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เพิ่มขึ้นอีก 23% จากปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นไปตามความคาดหมาย และได้รวมไว้ในประมาณการก่อนหน้านี้แล้ว โดยราคาหุ้นยังมี Upside 20% จึงแนะนำ ซื้อ

เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นโครงการที่ 2 อีก 33.66 MW : GUNKUL เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GK Kimitsu ที่จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วน 100% กำลังการผลิต 33.66 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุน 3.66 พันล้านบาท โดยได้รับสัมปทานในการขายไฟฟ้าให้กับ Tokyo Electric Power Company (TEPCO) เป็นระยะเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ feed-in-tariff (FIT) หน่วยละ 36 เยน หรือราว 10 บาท ทั้งนี้คาดโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จและดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2560

รวมไว้ในประมาณการปัจจุบันแล้ว จึงยังคงประมาณการ : ประเด็นดังกล่าวถือว่าอยู่ในความคาดหมาย และฝ่ายวิจัยได้รวมไว้ในประมาณการก่อนหน้านี้อยู่แล้ว โดยโครงการ GK Kimitsu กำลังการผลิต 33.66 เมกะวัตต์ ถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการที่ 2 ของ GUNKUL ในประเทศญี่ปุ่นต่อจาก GK Sendai กำลังการผลิต 31.75 เมกะวัตต์ จังหวัด มิยากิ ที่ GUNKUL ได้เข้าลงทุนไปในช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมา

ส่งผลให้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นของ GUNKUL ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 65.41 เมกะวัตต์ ทั้งนี้หากพิจารณาจากมูลค่าเงินลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GK Kimitsu พบว่าอยู่ราว 108 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ (ซึ่งใกล้เคียงกับต้นทุนโครงการ GK Sendai แต่สูงกว่าต้นทุนค่าก่อสร้างที่ประเทศไทยที่ราว 60-70 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์)

โดย GUNKUL ได้ทำการกู้ยืมเงินระยะยาว 18 ปี จากธนาคารในญี่ปุ่น สัดส่วน 85% ของมูลค่าโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรวมคาดโครงการ GK Kimitsu จะสามารถสร้างกำไรให้กับ GUNKUL ราว 200 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งฝ่ายวิจัยรวมไว้ในประมาณการปัจจุบันแล้ว

แนะนำซื้อ…Top pick ของกลุ่มพลังงานทดแทน : ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2558 (DCF) เท่ากับ 33.25 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำซื้อ และเลือกเป็น Top pick ของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

แนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปี 2558 เติบโตต่อเนื่อง : ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติปี 2558 จะเติบโต 34.2%yoy โดยคาดแนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปี 2558 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทำ New High อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2H58 ที่จะได้รับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มค้างท่อในส่วนของงาน Trading ขั้นต่ำที่ 90 เมกะวัตต์ (ปัจจุบันมีความแน่นอนสำหรับโครงการรางเงินแล้วจำนวน 87 เมหะวัตต์)

หลังจากภาครัฐจะทยอยประกาศผู้ที่ได้รับคัดเลือกในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากธุรกิจ Trading อุปกรณ์ไฟฟ้าในปี 2558 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินกว่าเท่าตัวจากปี 2557 และต่อเนื่องในปี 2559 ที่แนวโน้มกำไรปกติคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 53.8%yoy ทำระดับสูงสุดใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม WED (โครงการห้วยบงและวายุ) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม GNP กำลังการผลิตแห่งละ 60 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเข้ามาตลอดทั้งปี 2559

และในปี 2560 ที่แนวโน้มกำไรจะเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ในประเทศญี่ปุ่นจะทยอยผลิตเชิงพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันได้ประกาศการลงทุนแล้วจำนวน 2 โครงการ GK Sendai และ GK Kimitsu กำลังการผลิตรวม 65.41 เมกะวัตต์ ส่วนอีกโครงการราว 30-40 เมกะวัตต์ คาดจะประกาศในช่วงปลายปี 2558 (ฝ่ายวิจัยได้รวมกำลังการผลิโรงไฟฟฟ้าโซลาร์ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 104.75 เมกะวัตต์ประมาณแล้ว)

นอกจากนี้ GUNKUL กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นอีกราว 100 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็น upside ที่ฝ่ายวิจัยยังไม่รวมอยู่ไว้ในประมาณการ