KBANK - ซื้อ

KBANK - ซื้อ

ปรับลดกำไรปี58 เหตุปรับสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯ

ประเด็นการลงทุน : เราได้เข้าร่วมประชุมนัวิเคราะห์ของ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK พบว่าผู้บริหารได้เปลี่ยนมามุ้งเน้นคุณภาพสินทรัพย์ในปีนี้ ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาด 

ดังนั้น เราจึงทำการปรับเพิ่มประมาณการตั้งสำรองฯปี 2558 ขึ้น 52% เป็น 22 พันล้านบาท นอกจากนี้เรายังทำการปรับลดประมาณการกำไรปี 2558 ลง 11% เป็น 44 พันล้านบาท อีกทั้งปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 ของเราลงเหลือ 225 บาท อ้างอิง PBV ที่ 1.7เท่า

แม้ว่าจะปรับประมาณการกำไรลง แต่เรามองว่าผลการดำเนินงานของ KBANK จะพลิกกลับมาปรับตัวสูงขึ้นได้เร็วกว่าบริษัทอื่นๆในกลุ่มเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติในปีหน้า หนุนโดยการดำเนินงานโครงการของรัฐ นอกจากนี้ ราคาหุ้นยังซื้อขายกันดวย PBV ที่ 1.5เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1.6เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

KBANK ปรับลดการเติบโตสินเชื่อลงเหลือ 6% ในปี 2558 เป็นไปตามประมาณการของเรา :  ผู้บริหารปรับลดประมาณการเติบโต GDP ปี 2558 ลงเหลือ 2.8% จากเดิม 3% เนื่องจากสภาพทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นธนาคารจึงทำการปรับลดเป้าการเติบโตสินเชื่อปี 2558 ลงจาก 6-8% เป็นไม่เกิน 6%

ทั้งนี้ให้สังเกตว่าสินเชื่อบรรษัทเพิ่มสูงขึ้น 4.3% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเป็นครั้งแรกในรอบห้าเดือนที่ผ่านมา ตามมาด้วยการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 3.3% ของสินเชื่อ SME พร้อมกันนี้ สินเชื่อรายย่อยสูงขึ้น 2% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันจากนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น

ดังนั้นเราจึงยังคงเป้าการเติบโตสินเชื่อปี 2558 ของเราที่ 6% เป็นไปตามประมาณการใหม่ของธนาคาร ธนาคารคาดว่าสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมขยับเป็น 2.7-2.8% ณ สิ้นปื 2558 จากเดิม 2.2-2.3% ณ สิ้นปี 2558 ถ้าหากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด เราคาดว่าประมาณการส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปี 2558 เป็น 3.55% ใกล้เคียงกับประมาณการปี 2558 ของธนาคาร (3.5-3.6%)

การปรับเพิ่มต้นทุนสินเชื่อกดดันให้เราปรับลดประมาณการกำไรของเราลง : ผู้บริหารของ KBANK พยายามที่จะปรับอัตราสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯต่อสินเชื่อให้สูงขึ้นไม่เกิน 1.5% ในปี 2558 จากเดิม 1% เพื่อสะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของเชื่องช้าของเศรษฐกิจ และอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ทรงตัว (ขณะนี้อยู่ที่ 140%) ซึ่งกดดันให้เราปรับเพิ่มประมาณการสำรองค่าเพื่อหนี้สูญฯขึ้น 52% ในปี 2558 เป็น 22 พันล้านบาท และ 21% ในปี 2559 เป็น 17.5 พันล้านบาท เนื่องจากมีการปรับเพิ่มการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯ

เราจึงทำการปรับลดประมาณการกำไรของ KBANK ลง 14% ในปี 2558 เป็น 43 พันล้านบาท และ 8% ในปี 2559 เป็น 51 พันล้านบาท ประมาณการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯใหม่ของเราอ้างอิงจากต้นทุนสินเชื่อที่ 1.40% ในปี 2558 และ 1.04% ในปี 2559

คาดว่ากำไรไตรมาส 2/58 จะไม่สดใสจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่เพิ่ม : เราคาดว่ากำไรไตรมาส 2/58 ที่ 11 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY และ 11% QoQ จาการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯจำนวนมาก จากที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น เราคาดว่าการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯจะสูงขึ้น 76% YoY และ 33% QoQ เป็น 5.3 พันล้านบาท ประมาณการสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ของเราที่ 45% (ใกล้เคียงกับประมาณการของธนาคาร) เราคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารในไตรมาส 2/58 สูงขึ้น 10% YoY

พร้อมทั้งคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเป็น 3.58% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมสำรองหนี้เสียในไตรมาส 2/58 ของเราคาดปรับตัวสูงขึ้น 20 พันล้านบาท ขยายตัว 7% YoY แต่ลดลง 2% QoQ