กรีซต้องการเงินมหาศาลเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

กรีซต้องการเงินมหาศาลเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ไอเอ็มเอฟ ระบุ การกอบกู้เศรษฐกิจของกรีซต้องใช้งบประมาณสูงถึง 50,000 ล้านยูโร ภายใน 3 ปีนับจากนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) ออกรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกรีซในปีนี้จากร้อยละ 2.5 ลงเหลือร้อยละ 0.0 พร้อมทั้งเตือนว่า รัฐบาลเอเธนส์ต้องการเงินช่วยเหลือสูงถึง 50,000 ล้านยูโร ( ราว 1.88 ล้านล้านบาท ) ที่ในจำนวนนี้ 36,000 ล้านยูโร ( ราว 1.35 ล้านล้านบาท ) มาจากกลุ่มพันธมิตรในยุโรป เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้างหน้าต่อไป ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ และเสนอแนะให้กรีซเข้าสู่กระบวนการประนอมหนี้ด้วย หลังรัฐบาลเอเธนส์ผิดนัดชำระหนี้ 1,500 ล้านยูโร ( ราว 56,550 ล้านบาท ) เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวของไอเอ็มเอฟ หนึ่งในเจ้าหนี้กลุ่ม "ทรอยกา" ร่วมกับคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) และธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) มีขึ้นก่อนชาวกรีกมีกำหนดใช้สิทธิ์ลงประชามติครั้งสำคัญในวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค. นี้ เพื่อกำหนดท่าทีของประเทศต่อข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจของทรอยกา ซึ่งนายมาร์ติน ชูลซ์ ประธานสภายุโรป ( อีพี ) กล่าวว่าความเชื่อมั่นของยุโรปต่อรัฐบาลกรีซในเวลานี้อยู่ในระดับต่ำที่สุด และหากเสียงส่วนใหญ่ของชาวกรีกเห็นพ้องกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเจ้าหนี้ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส และพรรคซีริซา ควร "เปิดทาง" ให้รัฐบาลนักวิชาการเข้ามาบริหารประเทศแทน

ขณะที่นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ แห่งฝรั่งเศส เตือนชาวกรีกให้คำนึงถึงผลกระทบของการเลือกคัดค้าน ตามการชี้นำของรัฐบาล ว่าอาจส่งผลถึงขั้นทำให้ประเทศต้องพ้นจากการร่วมใช้สกุลเงินยูโร ด้านซีปราสตอบโต้ท่าทีล่าสุดของประเทศร่วมภูมิภาคว่าเป็นการแสดงเจตนา "ขู่กรรโชก" และยืนยันมาตรการควบคุมเงินทุน ที่เป็นการปิดสถาบันการเงินชั่วคราวถึงวันที่ 6 ก.ค. เป็นอย่างน้อย และการกำหนดยอดการถอนเงินสูงสุดวันละ 60 ยูโร ( ราว 2,262 บาท ) จะสิ้นสุดลงในอีกไม่ช้า