กรีซกดดันหุ้นสหรัฐร่วงต่อเนื่อง

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ร่วงลง 216.57 จุด หรือ 1.21% มาอยู่ที่ 17,730.11 จุด

ขณะดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ลดลง 24.83 จุด หรือ 1.18% ที่ 2,076.78 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 71.30 จุด หรือ 1.40% มาอยู่ที่ 5,009.21 จุด

เทรดเดอร์ชี้ว่า นักลงทุนกำลังวิตกต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ ที่มีต่อทั่วโลก และกำลังเฝ้ารอดูผลการทำประชาพิจารณ์ของชาวกรีซในวันที่ 5 ก.ค.นี้อย่างใกล้ชิด โดยกังวลว่า หากผลออกมาเป็นไม่รับ อาจทำให้วิกฤติที่เกิดขึ้น ขยายวงไปยังประเทศยูโรรายอื่นๆ ที่มีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจอยู่เช่นกัน อย่าง โปรตุเกส สเปน และอิตาลี

ความวิตกดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่ให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัว ที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มสูง ยอดขายบ้านที่มากขึ้น และการเติบโตในกิจกรรมการผลิต

ขณะที่ตลาดหลักๆ ในยุโรป ปิดไร้ทิศทางชัดเจน ก่อนหน้าการทำประชาพิจารณ์ของกรีซ

ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ ปรับขึ้นเล็กน้อย 0.33% มาอยู่ที่ 6,630.47 จุด ส่วนดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนีลดลง 0.73% ที่ 11,099.35 จุด และดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ร่วงลง 0.98% ปิดซื้อขายที่ 4,835.56 จุด

เทรดเดอร์ชี้ว่า เรื่องกรีซอาจเป็นปัจจัยที่เกาะติดตลาดต่อไปอีกระยะหนึ่ง และช่วงสุดสัปดาห์นี้ อาจเป็นการชี้ขาดของปัญหาที่เกิดขึ้น

ราคาน้ำมันเจอแรงกดดันจัดหารอบใหม่
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง จากการที่บรรดาเทรดเดอร์พากันวิตกถึงปริมาณการจัดหาที่ล้นตลาด

ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ในตลาดไนเม็กซ์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดของสหรัฐนั้น ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 3 เซนต์ มาอยู่ที่ 56.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน

ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกันที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ ขยับขึ้นมา 6 เซนต์ ที่ 62.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เทรดเดอร์ระบุว่า ตลาดยังจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงการเจรจาระหว่างอิหร่าน กับ 6 ชาติมหาอำนาจ ท่ามกลางความกังวงถึงการจัดหาน้ำมันที่อาจล้นตลาดมากขึ้น หากทั้ง 2 ฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ที่จะเปิดทางให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น