ตร.ลงพื้นที่สอบ '5ผู้บ่าวกินแมว' โพสต์เฟสฯโชว์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่สอบปากคำชาวบ้านในหมู่บ้านโคกว่าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่กลุ่มวัยรุ่น 5 คนให้การว่าเก็บซากแมวที่ถูกรถชนตายมาประกอบอาหารกินเพื่อเป็นข้อมูลประกอบสำนวนคดีเพิ่มเติม หลังจากองค์กรภาคประชาชน วอชด๊อก ไทยแลนด์ (WDT) ได้เรียกร้องให้สอบสวนเอาผิดกับกลุ่มวัยรุ่นชาย 5 คนดังกล่าว ที่มีการเผยแพร่ภาพทางโลกออนไลน์ผ่านเฟสบุ๊ก ชื่อว่า “วันนี้แก๊งผู้บ่าวกินแมวจัดว่าเด็ด” ขณะร่วมกันนำแมวทั้งตัวที่มีการย่างจนไหม้เกรียมมาประกอบอาหารกินสร้างความสะเทือนใจแก่คนรักสัตว์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นจำนวนมากด้วย”

แต่หลังจาก พ.ต.ท.ยงยุทธ พินิจการ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ละหานทราย ได้เรียกตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คน ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ บ.โคกว่าน ต.โคกว่านอ.ละหานทราย มาสอบสวนที่โรงพักทั้งหมด ก็ให้การรับสารภาพว่า ได้นำแมวมาประกอบอาหารและถ่ายรูปโพส์ตลงเฟสบุ๊กจริง แต่เป็นซากแมวที่ถูกรถชนตายแล้ว ไม่ได้ฆ่าหรือทำร้าย

ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบพยานแวดล้อมในหมู่บ้าน ไม่มีใครออกมายืนยันเป็นพยานว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวนำซากแมวมาจากไหนและไม่พบกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คน อยู่ที่บ้านเนื่องจากได้ออกไปทำงานรับจ้าง และทำไร่ทำสวนมีเพียงชาวบ้านที่จับกลุ่มวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นเท่านั้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหากับกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คนแต่อย่างใด เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนเท่านั้นแต่หากมีข้อมูลหลักฐานชี้ชัดว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว มีการทำร้ายหรือฆ่าแมวนำมาประกอบอาหารกินจริง ก็จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์พ.ศ.2557 มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากผลการสืบสวนสอบสวนแล้ว พบว่า เป็นการนำซากแมวที่ตายแล้วมาประกอบอาหาร แล้วถ่ายรูปโชว์ในเฟสบุ๊กโชว์ ด้วยความคึกคะนองหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตามที่ทั้งหมดให้การ ก็จะไม่มีการแจ้งข้อหาเพียงตักเตือนและห้ามไมให้กระทำในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก