'ณรงค์' รมว.ศึกษาฯ แนะราชภัฏย้อนทบทวนตนเอง

'ณรงค์' รมว.ศึกษาฯ แนะราชภัฏย้อนทบทวนตนเอง

"ณรงค์" แนะราชภัฎ หันย้อนทบทวนตนเอง ชี้มหา’ลัยทุกแห่งทั้งรัฐ มทร. มรภ.ต้องพัฒนาตนเอง ศธ.ไม่สามารถไปสร้างกฎเกณฑ์การรับสมัครงานของบริษัทได้

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งที่ปรึกษา ทางการเงินฝึกหัด (Financial Advisor Trainee)ทางเว็บไซต์สมัครงาน โดยระบุคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงผู้จบการศึกษาในเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า2.75ทั้งยังต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษา14แห่งซึ่งในวันที่3ก.ค.นี้ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย (ทปอ. มรภ.) จะมีการหารือว่าจำเป็นต้องยกเลิกการทำธุรกรรมทางการเงินกับ ธ.ไทยพาณิชย์หรือไม่ด้วยว่า เท่าที่ทราบธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจงว่าเป็นการสื่อสารข้อมูลคลาดเคลื่อน ส่วนเรื่องความรู้สึกที่เกิดขึ้นธนาคารคงต้องไปทำความเข้าใจกับกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฎเองแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ มหาวิทยาลัยราชภัฎ จะต้องมองย้อนกลับด้วยว่าสาเหตุใดธนาคารถึงออกประกาศมาเช่นนั้นหรือว่ากลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฎยังไม่มีมาตรฐานเท่าที่ควร

 ทั้งนี้หากกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฎได้ทบทวนแล้วว่าการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยราชภัฎยังมีความบกพร่องอยู่ก็ควรแก้ไขปรับปรุงต่อไปส่วนจะหารือให้สถานประกอบการหรือภาคเอกชนพิจารณาการรับสมัครงานของบัณฑิตด้วยการสอบแข่งขันหรือไม่นั้น เรื่องนี้คงเป็นความสมัครใจของแต่ละหน่วยงานมากกว่า ซึ่งแต่ละหน่วยงานน่าจะมีเหตุผลของตัวเองและคงไม่สามารถจะไปบังคับหรือสร้างกฎเกณฑ์อะไรได้

“ผมไม่ได้บอกว่ามหาวิทยาลัยไหนดีหรือไม่ดี แต่เมื่อธนาคารออกประกาศมาเช่นนั้นเราต้องมองย้อนกลับมาดูสถาบันของเราเองด้วยซึ่งมหาวิทยาลัยทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิยาลัยราชภัฎก็ตามจะต้องปรับปรุงพัฒนาคุณภาพมหาวิทยาลัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด ซึ่งถ้ามหาวิทยาลัยพัฒนาตนเองเป็นที่โดดเด่น หน่วยงานหรือองค์กรแต่ละแห่งก็จะให้ความสำคัญและยอมรับบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยนั้นเข้าทำงานเอง”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

ด้านรศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าผู้ที่จบวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีต้องมีมาตรฐานเหมือนกัน แต่อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องของสมรรถนะบ้าง ทั้งนี้ ตนเน้นย้ำเสมอว่ามหาวิทยาลัยต้องใส่สมรรถนะที่จำเป็นในทศวรรษที่ 21 ไปด้วยทั้งเรื่องของภาษา ทักษะการปรับตัว การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และภาวะความเป็นผู้นำเพื่อเพิ่มศักยภาพของบัณฑิต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษากำลังดูแลเรื่องของมาตรฐานในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยกำลังจัดทำเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรทั้งในระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งกำลังจะประกาศใช้ในเร็วๆนี้ซึ่งจะทำให้หลักสูตรการศึกษาของมหาวิทยาลัยมีมาตรฐานมากขึ้น

 ขณะที่ รศ.นพ.กำจรตติยกวีปลัด ศธ. กล่าวว่า เท่าที่ทราบข้อมูลเป็นการรับรับนักศึกษาจาก14สถาบันมาฝึกงาน ไม่ใช่การรับเข้าทำงาน ในลักษณะของโครงการความร่มมือที่รับเฉพาะ14มหาวิทยาลัย ซึ่งองค์กรใหญ่ๆ ก็ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน และในทางกลับกันก็มีหลายแห่งที่รับเด็กมรภ.เข้าไปฝึกงานมากมาย รวมทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยอย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยเองก็ต้องการส่งเด็กไปฝึกงานในสถาบันกอบการ เพื่อจะได้มีโอกาสได้งานในสถานประกอบการนั้น ซึ่งสถานประกอบการก็สามารถให้คำชี้แนะ เพื่อให้สถาบันศึกษาไปปรับปรุงหลักสูตร ส่วนต่อไปตำแหน่งนี้จะรับเฉพาะ14แห่งนี้หรือไม่ก็ต้องไปดูข้อจำกัดของสถานประกอบการ แต่คิดว่าตัวสถานประกอบการเองก็ยินดี ที่จะมาร่วมมือกับทรงมรภ. และมทร. ด้วยเช่นกันเพื่อจะได้ผลิตบัณฑิตให้ตรงตามความต้องการซึ่งหากมีคุณสมบัติครบตามที่กำหนด ก็เชื่อว่าทางสถานประกอบการจะเปิดกว้างในการรับเข้าทำงานแน่นอน