'ประยุทธ์'เคืองอธิบดีกรมชลฯ เรื่องการระบายน้ำ

'ประยุทธ์'เคืองอธิบดีกรมชลฯ เรื่องการระบายน้ำ

"พล.อ.ประยุทธ์"เคืองอธิบดีกรมชลฯ เรื่องการระบายน้ำ หมายหัว"กรมเจ้าท่าและกรมประมง"

รายงานข่าวจากที่ประชุมครม.สัญจร  จ.เชียงใหม่เมื่อวันที่ 30มิ.ย.ที่ผ่านมาเปิดเผยว่า ในการประชุมครม.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างจะมีความเคร่งเครียด แต่ไม่ได้เครียด เพราะกรมชลประทานแต่อย่างใด เพราะในส่วนของกรมชลประทานนั้น นายกรัฐมนตรีโกรธมาตั้งแต่การประชุมครม.เศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมาแล้วในเรื่องของการระบายน้ำ  

ดังนั้นนายกฯจะไม่โกรธซ้ำอีกเหตุผลที่นายกฯโกรธครั้งที่เเล้วเพราะกรมชลประทานตกลงปล่อยน้ำ 33ล้านลบ.ม.ต่อวัน  เเบบไม่หารือฝ่ายอื่นๆเลย เพราะความจริงต้องขอความเห็นชอบจากผู้เกี่ยวข้องก่อน เพราะหากปล่อยนำ้ปริมาณขนาดนั้นทำให้น้ำที่มีอยู่มันไม่พอ เพราะน้ำเหลือเพียง 1,067 ล้านลบ.ม.เท่านั้น ที่จะต้องใช้ได้ถึงปลายเดือนสิงหาคมเพื่อรอฝนให้ตกตามฤดูจึงต้องลดการปล่อยน้ำลงเหลือวันละ 28 ล้านลบ.ม. ที่ต้องแบ่งไปช่วยภาคการเกษตร การอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ

แต่วันนี้นายกฯกลับเครียดกรมประมงและกรมเจ้าท่า   และหมายหัว2กรมนี้ เพราะว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงไม่หาข้อยุติและทำความเข้าใจกับชาวประมงให้ชัดเจน และยังอ้างเหตุผลว่าไม่พร้อมเพราะไม่มีคน ทั้งๆที่ให้เวลาแล้ว หรือต้องนำประชาชนมาเป็นเครือข่ายในการแก้ปัญหา และขอแต่งบประมาณ เช่นกรณีมีข่าวว่าจะมีการปิดอ่าวไม่ให้ออกไปหาปลา ซึ่งนายกฯก็ดูข่าวก็รู้สึกว่าในส่วนของกรมนี้ยังไม่มีความชัดเจนตรงนี้

เพราะถ้าชี้แจงก็จะมีข้อมูลแล้วว่าที่ผ่านมามีการยืดอายุเวลาของการปฏิบัติตามข้อกฎหมายมาให้โดยตลอด จนขณะนี้จะยืดถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ และจะให้ผ่อนผันไปเรื่อยๆรัฐบาลก็ไม่สามารถดำเนินการให้ได้เพราะมีสหภาพยุโรปและไอยูยูกดดันไทยอยู่ จึงต้องอธิบายให้ชาวประมงเข้าใจว่าจะทำการประมงแบบเดิมไม่ได้แล้ว และทุกประเทศจะต้องปรับตัวตามอียู 

"ทำประมงทำได้ แต่เอาไปขายใครไม่ได้ ประเทศอื่นเขาไม่ซื้อดังนั้นเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจประชาชนว่ามันผ่อนผันไม่ได้ เมื่อผ่อนผันไม่ได้ปัญหามันก็เกิดขึ้นทุกคนต้องปรับตัวและยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโลก ถ้าปิดอ่าวแล้วยังออกก็จับกุมได้เลยเพราะถ้าออกไปแล้วหาปลามาได้เขาไม่รับซื้อใครจะรับผิดชอบอีก อย่างนี้"แหล่งข่าว กล่าว