MORNING CALL ACTION NOTES

MORNING CALL ACTION NOTES

เก็งหุ้นเล็กขั้นเวลา

SET วานนี้ปรับตัวลงตอบรับข่าวความล้มเหลวในการเจรจาแก้ปัญหาหนี้กรีซ ส่งผลให้กรีซมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ และมีโอกาสที่จะถูกขับออกจากยูโรกรุ๊ป กดดันให้ SET ปิดที่ 1,511.19 (-6.84 จุด) Volume 3.9 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Buy 8 ลบ. , Net Short TFEX 4,649 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ผลสำรวจชาวกรีซ 67.38% ต้องการให้กรีซอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไป ทั้งนี้กรีซจะทำประชามติเรื่องข้อตกลงหนี้สินเพื่อแลกกับการได้รับเงินช่วยเหลือรอบใหม่ในวันที่ 5 ก.ค.

- กรีซแถลงจะไม่ชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรให้กับ IMF ตามกำหนดในวันนี้ หากกรีซไม่สามารถทำข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้

- การส่งออกไทยเดือนพ.ค. - 5.01% มูลค่า 18,429 ล้านเหรียญสหรัฐ รวม 5 เดือน มูลค่า 88,694 ล้านUSD - 4.20%

+ การทำ Window dressing สิ้น Q2/58

+/- Foreign เป็น Net Buy 8 ลบ. แต่ Net Short TFEX 4,649 สัญญา

แม้ว่าภาวะตลาดจะกังวลต่อการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซสูงขึ้น แต่เชื่อว่าสุดท้ายกรีซและเจ้าหนี้จะหาทางออกร่วมกันได้เนื่องจากโพลสำรวจประชาชนกรีซ 67% ยังต้องการอยู่ในยูโรโซนต่อไป อย่างไรก็ตามหากเกิด Worst case กรีซผิดนัดชำระหนี้และออกจากยูโรโซนเชื่อจะมีผลกระทบจำกัดเนื่องจากกรีซมี GDP เล็กมากคิดเป็น 1.8% ของ GDP ยุโรปเท่านั้น อีกทั้งในประเทศมีแรงหนุนจาก Window dressing Q2/58 ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,500 – 1,520 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

SET มีแนวโน้มแกว่งตัว ดังนั้นแนะนำซื้อเก็งกำไรในกรอบ 1,500 – 1,520 จุด โดยเน้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน เช่น

- กลุ่มส่งออก เช่น อาหาร (CPF TUF) อิเล็คทรอนิคส์ (KCE DELTA HANA) ที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า ล่าสุด 33.75 Bath/USD

- หุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายการทำ Window Dressing เนื่องจาก Underperform SET ได้แก่ กลุ่ม ICT (SAMART) กลุ่ม BANK (KBANK KTB) กลุ่ม MEDIA (RS) และกลุ่มอสังหาฯ (SPALI AP)

- Preview Q2/58 กลุ่มธนาคารมีแนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากถูกกดดันจาก NIM ที่ลดลง รวมถึง NPL ที่สูงขึ้น

Analyst Meeting

KBANK ราคาปิด 200 บาท อยู่ระหว่างทบทวนปรับลดราคาเป้าหมายจากเดิม 268 บาท(P/BV 2.0) ปัจจุบันเป้า consensus เฉลี่ย 250 บาท

- ผู้บริหารยืนเป้า loan growth ทั้งปีที่ระดับไม่เกิน 6% (บนสมมติฐาน GDP 2.8%) จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึมยาว สินเชื่อครึ่งปีโตประมาณ 3%YTD ส่วน NPL มีแนวโน้มสูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.5% ของสินเชื่อรวมเป็น 2.7-2.8% ของสินเชื่อรวม ส่งผลให้ credit cost ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าทั้งปีที่ 100 bps เป็น 120 bps ผู้บริหารยังยืนเป้าตามเดิม แต่ตัวเลขจริงน่าจะแตะที่กรอบล่าง ไปไม่ถึงกรอบบน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซึมยาวในรูป U ไม่ใช่ V-shape

- คาดกำไร Q2/58 ราว 1.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 5%YoY และ 10%QoQจากการตั้งสำรองหนี้สูญฯเพิ่มขึ้น 14%QoQ และ 51%YoY เพื่อให้สอดคล้องกับระดับ NPL ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ NIM ที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งปีหลังจากผลกระทบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

- คาด consensus น่าจะปรับประมาณการและราคาเป้าหมายลงอีก

หุ้นเด่นรายวัน

- SYNEX (ราคาปิด 4.46 ซื้อเก็งกำไร) คาดรายได้-กำไรไตรมาส 2/2558 โดดเด่นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา หลังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ตามแผน พร้อมเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง มั่นใจรายได้ปีนี้ทำได้ตามเป้า 2.1 หมื่นล้านบาท (ที่มา:ทันหุ้น)

เทคนิค: ราคารทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและสร้างรูปแบบBullish Flag พร้อมมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ รับ 4.40 / 4.32 ต้าน 4.52 / 4.80 Cut Loss 4.20

- GUNKUL (ราคาปิด 27.75 ซื้อเก็งกำไร) ลั่นรายได้ปีนี้โต 60% คาดยอดขายเทรดดิ้งพุ่ง มั่นใจภายในปี 60 กำลังการผลิตทำได้ไม่ต่ำกว่า 500 MW จากปัจจุบันมี 300 MW (ที่มา:ทันหุ้น)

เทคนิค: ราคายืนเหนือแนวต้านรูปแบบ Invert Head and Shoulder มีปริมาณการซื้อขายเข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นลักษณะ U-shape รับ 27.50 / 27.00 ต้าน 28.75 / 29.75 Cut Loss 26.00

- AMATA (ราคาปิด 15.30 ซื้อเก็งกำไร เป้า consensus เฉลี่ย 20.15) ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งกองทรัสต์ AMATAR (AMATA Summit Growth REIT) สำเร็จโดยจะเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก หนุนกำไร 2Q58 เติบโต ขณะที่ผู้บริหารยังคงเป้ายอดขายที่ดินที่ 1,000 ไร่ซึ่งเติบโต 3% จากปีก่อน โดยคาดยอดขายครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก