เมื่อหนูน้อยต้องรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่

เมื่อหนูน้อยต้องรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่

กุมารแพทย์ แนะนำพ่อแม่วิธีรับมือโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงหน้าฝนพร้อมการป้องกันเมื่อลูกติดเชื้อ

กุมารแพทย์ แนะนำพ่อแม่วิธีรับมือโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงหน้าฝนพร้อมการป้องกัน

พญ.ศุภรัตนา คุณานุสนธิ์ กุมารเวชศาสตร์ทั่วไป โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า คุณพ่อคุณแม่คงคุ้นเคยกับโรคไข้หวัดใหญ่นี้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจถึงโรค การแพร่ กระจายของโรค การหลีกเลี่ยงป้องกันการติดโรคและการแพร่เชื้อให้ได้ละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้น สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่เกิดจาก เชื้อ Influenza virus หรือเรียกสั้น ๆ ว่า FLV มี 2 สายพันธุ์ คือ A&B สายพันธุ์ A ยัง มีสายพันธุ์ย่อย ๆ (Subtype) อีกมาก จึงเป็นที่มาของการแพร่กระจายเชื้อที่ต่างกันในแต่ละปี และเป็นเหตุให้เราต้องฉีดวัคซีนตามสายพันธุ์ย่อยที่เปลี่ยนไปในทุก ๆ ปีด้วย

อาการ ที่สำคัญคือ โรคทางเดินหายใจ คือ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูก จนถึงหอบเหนื่อยจากปอดอักเสบ นอกจากนั้น คือปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ซึ่ง ต่างจากหวัดธรรมดา(Common Cold) คือ รุนแรงกว่า ไข้สูงกว่า โรคแทรกซ้อนมากกว่า จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในคนสูงอายุ (เกินที่ 65 ปี), เด็กเล็ก ๆ, หญิงตั้งครรภ์, ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น หัวใจ ไต เบาหวาน หอบหืด ปอดเรื้อรัง เป็นต้น โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ ปอดอักเสบ ไซนัส หูชั้นกลางอักเสบ และทำให้อาการโรคที่มีอยู่เดิมกำเริบขึ้น เช่น หัวใจวาย หอบหืดรุนแรง เป็นต้น

การแพร่กระจาย โดยเฉพาะเสมหะ น้ำมูก ไอ จาม ในรัศมี 6 ฟุต จากตัวผู้ป่วย การจับต้องสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรค แล้วเอามือเข้าปาก จมูก เชื้อไวรัสนี้สามารถมีชีวิตอยู่บนสิ่งของได้นาน 2 – 8 ชั่วโมง ระยะติดต่อ ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วัน ก่อนป่วย (ก่อนมีไข้ หรือไอจาม) จนถึง 5 – 7 วัน หลังป่วย (ในเด็กอาจแพร่ได้นานกว่า 7 วันหลังป่วยได้) แต่บางคนได้รับเชื้อแล้วไม่มีอาการ แต่ก็อาจจะแพร่เชื้อ ไปยังผู้อื่นได้ จึงยังต้องระวังการติดเชื้อจากบุคคลที่อยู่ในบ้านเดียวกับผู้ป่วยแต่ไม่แสดงอาการด้วย ระยะเพาะเชื้อ หมายถึง ตั้งแต่ได้รับเชื้อจนเกิดอาการ คือ 1 – 4 วัน

ดังนั้นผู้ป่วย ควรอยู่บ้าน หลีกเลี่ยงไม่ไปแพร่เชื้อให้ผู้อื่นอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หลังจากหายไข้แล้ว (โดยไม่ต้องกินยาลดไข้) ปิดปาก จมูก เวลาไอ จาม ล้างมือด้วยสบู่ น้ำ หรือ แอลกอฮอล์เจลที่ใช้เช็ดมือ ขณะเดียวกันคนที่ยังไม่ป่วยต้องหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยในรัศมี 6 ฟุต หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับวัตถุสิ่งของ ของผู้ป่วยที่อาจมีเชื้อโรคติดอยู่ ล้างมือด้วยน้ำสบู่ หรือแอลกอฮอล์ เจล บ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการ สัมผัสตา จมูก ปากแล้วมาจับสิ่งของ ส่วนการป้องกันด้วยวัคซีน ให้ได้ในเด็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หากให้ได้ผลควรฉีดทุกปี เพราะในแต่ละปีจะมีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์และภูมิต้านทานจะลดลงหลังฉีด 1 ปี หรือแม้แต่การติดเชื้อในธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป ภูมิต้านทานก็จะลดลงได้การฉีดวัคซีนจะได้ผลต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ จึงจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันโรคได้