'โดรน' พาเที่ยว

 'โดรน' พาเที่ยว

เทคโนโลยี “โดรน” หรือยานบินไร้คนขับกำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีแห่งการเดินทางในอนาคต

โดยอีกไม่นานคุณจะสามารถเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังโดยไม่ต้องออกจากบ้านเลย


ต้องขอบคุณความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรียที่ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถบินโฉบไปโฉบมาระหว่างแหล่งท่องเที่ยวอย่างโคลอสเซียมแห่งกรุงโรมและแกรนด์ แคนยอนในสหรัฐอเมริกาได้


สิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้เป็นผลงานของ ดร.เฮลมุท ลาแวคส์ แห่งมหาวิทยาลัยเวียนนาที่ได้มีการทดสอบอุปกรณ์ดังกล่าวในทุ่งนาและถนนในเมืองเวียนนา
วิธีการทำงานของมันคือ โดรนจะส่งภาพมาที่แว่นตาเสมือนจริงหรือเวอร์ชวล เรียลิตี้ และการควบคุมกล้องบนโดรนใช้เพียงแค่ขยับหัวไปมา


เฮลมุท บอกว่า คนทั่วโลกสามารถใช้อุปกรณ์นี้ได้ถ้าพวกเขาต้องการจะเช่าโดรนไว้สำหรับพาเที่ยว


“แนวคิดหลักของอุปกรณ์นี้ก็คือ มันจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่มีงบประมาณท่องเที่ยวจำกัด คนพิการ และคนที่ไม่มีเวลาเดินทางไปไหนมาไหน” เฮลมุทกล่าว


โดรนนับเป็นเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จในการปฏิวัติการถ่ายภาพทางอากาศ มีการใช้โดรนถ่ายภาพที่น่าทึ่งของสถานที่หลายๆ แห่ง เช่น ภาพถ่ายภายในถ้ำฮัง ซอน ดุง ของเวียดนามซึ่งเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก


ภาพมุมกว้างที่ถ่ายจากโดรนช่วยให้คนดูได้ชื่นชมถ้ำที่มีความยาว 5.5 ไมล์ กว้าง 650 ฟุตและสูง 500 ฟุต


คนที่ได้รับประโยชน์จากภาพถ่ายจากโดรนเต็มๆ คือ เฮนรี่ อีแวนส์ ซึ่งเป็นอัมพาตใช้แขนและขาไม่ได้ เฮนรี่สามารถมีประสบการณ์การท่องเที่ยวไปยังสถานที่ห่างไกลจากบ้านของเขาได้โดยผ่านภาพถ่ายจากโดรน


อย่างไรก็ตาม เฮนรี่มีความกังวลเกี่ยวกับการนำโดรนมาใช้งานโดยคนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยว เขาคิดว่ามันน่าจะเหมาะกับการใช้งานโดยผู้ประกอบการมืออาชีพมากกว่า เพราะการใช้โดรนในพิพิธภัณฑ์หรือในบริเวณที่มีคนอยู่มากๆ นั้นเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้น


แต่เฮนรี่ก็เชื่อมั่นว่าโดรนอาจจะเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตสำหรับการท่องเที่ยวราคาถูกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอนนี้เขากำลังออกแบบโดรนเพื่อให้คนทั่วไปสามารถใช้ได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี แต่หน่วยงานการท่องเที่ยวหลายๆ ประเทศอาจจะอนุญาตให้ใช้โดรนได้เฉพาะเมื่อไม่มีคนอยู่ในบริเวณนั้นๆ


ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันได้เกิดอุบัติเหตุจากโดรนในงานคอนเสิร์ตของนักร้องชื่อดัง เอ็นริเก้ อิเกลเซียส ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลังจากใช้มือคว้าโดรนที่กำลังบินเก็บภาพบรรยากาศคอนเสิร์ตอยู่จนใบพัดของโดรนบาดเข้าที่นิ้ว


.................................
ที่มา เว็บไซต์เดลี่ เมล