ผลสำรวจประชากรพม่าปลอดโรฮิงญา

กระทรวงข่าวสารของพม่า ออกรายงานเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับผลการสำรวจสำมะโนประชากรของประเทศอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งเริ่มทำการสำรวจระหว่างเดือนมี.ค.เม.ย.ปีที่แล้ว ว่าจำนวนประชากรของเมียนมาอยู่ที่ 51.5 ล้านคน โดยมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ที่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตของทารกตั้งแต่แรกคลอดอยู่ที่ 62 ต่อ 100,000 คน และช่วงอายุขัยของประชากรอยู่ที่ 66.8 ปี

ขณะที่กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอฟพีเอ) วิเคราะห์รายงานดังกล่าวว่า แม้เป็นการสำรวจ ที่มีการนำจำนวนประชากรของกลุ่มชนพื้นเมือง 135 ชาติพันธุ์เข้าไปคำนวณและวิเคราะห์ด้วย แต่กลับไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 1.3 ล้านคนในรัฐยะไข่ ถือเป็นการย้ำเตือนจุดยืนของรัฐบาลพม่า ที่ไม่ต้องการมอบสัญชาติให้แก่กลุ่มคนเหล่านี้ ทำให้เกิดเสียงประณามอย่างหนักจากองค์กรสิทธิมนุษยชน ที่นำโดยฮิวแมน ไรท์ส วอท์ช ว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติและเลือกปฏิบัติ

ผลสำรวจสำมะโนประชากรดังกล่าว ได้รับการเผยแพร่ในวันเดียวกับที่รัฐบาลพม่า ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ที่กรุงเทพฯ ซึ่งทางการไทยเป็นเจ้าภาพ โดยตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศพม่า กล่าวตำหนิสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) อย่างรุนแรง ว่า ไม่เข้าใจสถานการณ์เรือผู้อพยพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง และยืนกรานปฏิเสธเรื่องการมอบสัญชาติให้แกชาวโรฮิงญา ตามการเรียกร้องของอีกฝ่าย