ผจก. 'บี้ เดอะสตาร์' เข้าพบตร.ปมคดียูฟัน

ผจก. 'บี้ เดอะสตาร์' เข้าพบตร.ปมคดียูฟัน

ผู้จัดการส่วนตัว "บี้ เดอะสตาร์" เข้าพบตร. แจงปมคดียูฟัน ยันไม่เกี่ยวข้อง ตอนนี้เจ้าตัวอยู่ตปท.

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 30 พ.ค.2558 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ศูนย์ราชการ อาคารบี น.ส.เพทาย เกิดผล ผูจัดการส่วนตัวของนายสุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว หรือ บี้ เดอะสตาร์ ได้เดินทางพร้อมใบรับมอบอำนาจเข้าให้ปากคำ แทนคุณสุกฤษฎิ์ ต่อ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปอท. และพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดียูฟัน หลังได้รับมอบอำนาจจาก บี้ เดอะสตาร์ กรณีมีภาพถ่ายและข้อความที่เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ฟอกเงินยูฟัน

น.ส. เพทาย เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่ถูกนำภาพมาโพส เกิดในช่วงก.พ.-มี.ค. โดยคุณบอย ยูฟัน ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของเพื่อนของนายสุกฤษฎิ์ ได้มีการนัดทานข้าวที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 9 จากนั้นได้มีการพูดคุยและแนะนำเกี่ยวเครือข่ายยูฟันและการลงทุนซื้อยูโทเค็น พร้อมทั้งมีการขอถ่ายรูปคู่ ต่อมานายบอยได้นำรูปไปลงเฟสบุ๊คส่วนตัว และลงข้อความชักชวนประชาชนให้ดูน่าเชื่อถือ ตนจึงได้ติดต่อให้ลบรูปออกเพราะสร้างความเสียหาย จากนั้นเมื่อเครือข่ายูฟันเริ่มเป็นคดีความ ปรากฎว่ามีรูปดังกล่าวเผยแพร่ซ้ำอีก จึงติดต่อนายบอยอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ โดยตนยืนยันว่าบี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่สามารถสมัครสมาชิก ทั้งนี้ บี้ยังติดภารกิจในต่างประเทศซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ในต้นเดือนกรกฎคม และหลังจากนี้ จะดำเนินคดีกับแอดมินเว็บไซด์ดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งในวันนี้จะแจ้งความกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่กับบก.ปอท. อีกด้วย

พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า บริษัทยูฟันมีการพยายามใช้บุคคล หรือกลุ่มดารานักแสดงมาแอบอ้าง เพื่อสร้างเชื่อถือให้กับบริษัทยูฟัน ซึ่งเมื่อประชาชนพบเห็นก็จะเกิดความเข้าใจว่า มีดารานักแสดงร่วมลงทุนในธุรกิจดังกล่าว สำหรับรูปของนายสุกฤษฎิ์รูปที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลเป็นรูปที่ถูกนำมาแอบอ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะทำการสอบสวนน.ส.เพทาย อย่างละเอียดอีกครั้ง

พร้อมกันนี้พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยแนวทางเยียวยาผู้เสียหายในคดี ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำสำนวนคดี รายการทรัพย์ และสำนเนาบัญชีผู้เสียหายส่งไปยังคณะกรรมการปปง. และอัยการ ดำเนินการตามขั้นตอนฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและอาญา โดยจะมีการยืนคำร้องแนบท้ายสำนวนผ่านสำนักอัยการเพื่อให้ศาลพิจารณาคืนเงินให้แด่ผู้เสียหายในคดียูฟันเนื่องจากคดีดีงกล่าวเป็นคดีอาญาเกี่ยวข้องคดีแพ่ง ส่วนทางปปง.ได้มีการแก้ข้อกฎหมายพรบ.ฟอกเงิน เพื่อให้สามารถคืนทรัพย์ให้แก่ผู้เสียหายได้เพื่อชดใช้คืนผู้เสียหาย ส่วนทรัพย์สินที่เหลือ จะให้ดำเนินการให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

เบื้องต้นคาดว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้ภายใน 10 วัน ในส่วนของผู้เสียหายขณะนี้แจ้งความแล้ว 1285 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่จะปิดรับแจ้งความในวันที่ 2 มิถุนายน นี้ พร้อมทั้งกล่าวมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีสามารถพิสูจน์ต่อศาลว่าผู้ต้องหากระทำผิดจริง