เมียนมาร์โต้ "ยูเอ็นเอชซีอาร์" ไม่ใช่ต้นตอผู้อพยพ

เมียนมาร์โต้ "ยูเอ็นเอชซีอาร์" ไม่ใช่ต้นตอผู้อพยพ

เมียนมาร์โต้ "ยูเอ็นเอชซีอาร์" ว่าไม่ใช่ต้นตอปัญหาผู้อพยพในภูมิภาค หลังถูกเรียกร้องให้ร่วมมือแก้ปัญหาดังกล่าวมากกว่านี้

หัวหน้าคณะผู้แทนระดับสูง ของกระทรวงต่างประเทศเมียนมาร์ นายถิ่น ลินน์ แถลงต่อที่ประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งรัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ (29 พ.ค.) ยืนยันว่า เมียนมาร์ไม่สมควรได้รับการกล่าวโทษเพียงฝ่ายเดียว ว่าเป็นสาเหตุของการเกิดวิกฤติเรือผู้อพยพผิดกฎหมายในทะเลอันดามัน ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนนี้

ทั้งนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนจากรัฐบาลเมียนมาร์ กล่าวด้วยว่า ข้อเรียกร้องจากหลายฝ่าย เรื่องการมอบสัญชาติให้แก่ชนกลุ่มน้อยในรัฐยะไข่เป็นการแสดงเจตนาเชื่อมโยงปัญหาเข้ากับการเมืองอย่างชัดเจน และสถานการณ์ภายในของเมียนมาร์บางเรื่องเป็นกิจการภายในที่บุคคลภายนอกไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้อง

ถ้อยแถลงที่รุนแรงของนายถิ่น ลินน์ ถือเป็นการตอบโต้คำกล่าวของนายโฟลเคอร์ เติร์ก ผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่แห่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ ซึ่งกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาให้ถึงแก่นแท้ หรือต้นตอ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือและความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลังมากกว่านี้จากทางการเมียนมาร์ และการมอบสัญชาติให้แก่ชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 1.3 ล้านคนในรัฐยะไข่ คือเป้าหมายสำคัญ ที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ต้องการผลักดันให้ประสบความสำเร็จ

ก่อนเริ่มการประชุม ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นางแอน ริชาร์ด เรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้อพยพทางเรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 3,000 คนโดยด่วนที่สุด ขณะที่พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการต่างประเทศของไทย กล่าวนอกรอบการประชุม อนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐใช้พื้นที่บางส่วนในภาคใต้ของไทยเป็นฐานปฏิบัติการชั่วคราว สำหรับให้ความช่วยเหลือเรือผู้อพยพ หลังรัฐบาลวอชิงตันยื่นคำร้องขอรับการอนุมัติมานานเกือบ 1 สัปดาห์

การประชุมครั้งนี้ มีตัวแทนจากรัฐบาล 17 ประเทศเข้าร่วมการหารือ ซึ่งนอกเหนือจาก 10 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนแล้ว ยังรวมถึงสหรัฐ สวิตเซอร์แลนด์ บังกลาเทศ เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นเอชซีอาร์ และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือไอโอเอ็ม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่เข้าร่วมการประชุมเกือบทั้งหมด ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ระดับสูงตามความคาดหวังของหลายฝ่าย